ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,293.98 จุด ลดลง 26.71 จุด (-2.02%) มูลค่าซื้อขายราว 33,329 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,311.54 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,292.44 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแรงกว่าที่คิดไว้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกัน โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับตัวลงมากกว่าตลาดอื่น รับแรงกดดันจากสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่ตึงเครียดขึ้น หลังวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด และทางประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาขู่ว่าสหรัฐจะตอบโต้จีนอย่างรุนแรง หากจีนออกกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงเพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ทำให้มองว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงมีอย่างต่อเนื่องก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้
ส่วนบ้านเราก็มีแรงกดดันเล็กน้อยจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติต่ออายุพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 พ.ค.63 ออกไปอีก 1 เดือน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ดัชนีฯหลุดแนว 1,300 จุดทำให้ไม่ค่อยดี ดังนั้น ในช่วงบ่ายจะต้องลุ้นให้ยืนเหนือ 1,300 จุดให้ได้ มิฉะนั้นตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ เนื่องจากในแง่ Valuation ก็ถือว่าแพง จากเทรด P/E 19 เท่า ซึ่งกำไรของบริษัทจดทะเบียนได้ถูกปรับลง โดยฝ่ายวิจัยบล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดการณ์ EPS ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดอยู่ที่ 68 บาท
พร้อมให้แนวรับ 1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,300-1,320 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
STA มูลค่าการซื้อขาย 1,915.37 ล้านบาท ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,668.76 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 1,529.67 ล้านบาท ปิดที่ 22.90 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,310.66 ล้านบาท ปิดที่ 84.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 919.22 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 1.00 บาท