นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยว่า จากวิกฤติภัยแล้งในช่วงที่ผ่านมา WHAUP ในฐานะผู้ประกอบการด้านสาธารณูปโภคชั้นนำของประเทศ ได้มีมาตรการการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป อย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด โดยได้มีการลงทุนในโครงการต่างๆ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ภายหลังที่บริษัทฯขยายศักยภาพในการเพิ่มกำลังการผลิต Reclaimed Water หรือการนำน้ำที่ใช้แล้วมาบำบัด และนำกลับมาใช้ใหม่อีก 15,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะทำให้กำลังการผลิต Reclaimed Water ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) เพิ่มสูงขึ้นเป็น 25,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากในปี 2562 ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยโครงการดังกล่าว บริษัทฯใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในไตรมาส 4/2563 ซึ่งบริษัทฯ สามารถดำเนินการจ่ายน้ำได้บางส่วนที่ปริมาณ 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในไตรมาส 3/2563 นี้
"การเพิ่มกำลังการผลิต Reclaimed Water ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดสำหรับการจัดหาแหล่งน้ำดิบและแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน และยังสามารถนำไปผลิตและส่งจ่ายเป็นน้ำปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) หรือน้ำคุณภาพสูงให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ซึ่งมูลค่าของน้ำเพื่ออุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Demineralized Water) จะมีราคาที่สูงกว่าราคาน้ำอุตสาหกรรมทั่วไปประมาณ 40-60 % โดยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลดภาระการลงทุนและค่าดำเนินการในระบบสาธารณูปโภค และสามารถใช้น้ำที่ต้องการจากผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้จะสามารถต่อยอดเป็นน้ำเพื่ออุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Demineralized Water) ได้ และเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ ได้ประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี"นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังได้พัฒนาโครงการ Reclaimed Water จากระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) โดยลงทุนก่อสร้าง Wastewater Reclamation Plant ที่มีกำลังผลิต 5,200 ลูกบาศ์เมตรต่อวัน เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้ง และต่อยอดผลิตเป็นน้ำอุตสาหกรรมเกรดสูง (Premium Clarified Water) ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) โดยจะมีการลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำกับกลุ่มโรงไฟฟ้ากัลฟ์ เป็นระยะเวลา 15 ปี เพื่อจำหน่ายน้ำอุตสาหกรรมเกรดสูงดังกล่าว มูลค่าสัญญาประมาณ 770 ล้านบาท
โครงการนี้ใช้งบลงทุนประมาณ 108.2 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการส่งจ่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมให้กับผู้ใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในการขยายธุรกิจน้ำของบริษัทฯ เพื่อต่อยอดอัตราการเติบโตของรายได้ในอนาคต