นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม กล่าวว่าจากกรณี บมจ. การบินไทย (THAI) หลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ หลังจากที่ กระทรวงการคลัง ขายหุ้นจำนวน 3.17% ทำให้เหลือหุ้นในสัดส่วน คิดเป็น 47.8628% นั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมได้โทรศัพท์มาหารือเมื่อคืนนี้ให้ทางกระทรวงคมนาคมถอนรายชื่อที่เตรียมเสนอเข้าร่วมกับคณะทำงานชุดของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 คนซึ่งมีตนรวมอยู่ด้วยออกมาก่อน โดยให้รอดูทางกระทรวงคลังว่าจะดำเนินการ หรือจะขอให้กระทรวงคมนาคมเข้าไปช่วยอย่างไร ขณะนี้ จึงยังไม่มีการเสนอรายชื่อไป
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า แนวทางการลดหุ้นในส่วนของคลัง ทำให้การบินไทย หลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจนั้น เป็นเรื่องที่ทราบอยู่แล้ว ว่าจะพ้นจากการกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมทันที แต่จะมีผลดีต่อการบินไทย ที่คล่องตัว และสามารถคัดสรร ผู้ที่มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ เข้ามาเป็นบอร์ดเป็นผู้บริหารได้ ไม่จำกัดอายุ หากเหมาะสม จะอายุเกิน 60 ปี หรือเป็นต่างชาติก็ได้ เป็นการเปิดโอกาสให้ทำธุรกิจได้เต็มที่
นายถาวร กล่าวว่า เมื่อการบินไทย ขาดจากการเป็นหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงคมนาคม จะต้องอยู่ที่กระทรวงการคลังว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะตอนนี้การบินไทยหลุดจากการกำกับของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วย ดังนั้น จึงอยู่ที่ผู้ถือหุ้น คือกระทรวงการคลังและการบินไทยเอง ในฐานะเป็นนิติบุคคล เป็นบริษัทมหาชนที่อยู่ภายใต้กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นผู้ตัดสินใจ
โดยขณะนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงานกับกระทรวงการคลังในการขับเคลื่อนการบินไทยต่อไป ส่วนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เรื่องการยื่นศาลฟื้นฟูกิจการนั้น อยู่ที่กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่จะพิจารณา ซึ่งวันที่ 25 พ.ค. นายวิษณุ มีการนัดหารือกับกระทรวงการคลัง ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร