น.ส.เพชรรัตน์ ฉายานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชี บมจ. ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนนำบริษัทลูกในประเทศอินโดนีเซียเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นอินโดฯ ตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด
ในปี 2550 บริษัทฯมีเพียงแผนที่จะนำบริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (TAE)เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน(FA)น่าจะได้ในเร็ว ๆ นี้ พร้อมคาดว่าจะนำ TAE เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้ราวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2551
"การนำ TAE เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะนำให้ LANNA รับประโยชน์ได้แง่ของเงินลงทุน เพราะเราจะมีส่วนหนึ่งที่จะต้องไปกู้ ก็คือเราจะลงทุนในส่วนของ แพลน 2 เราจะนำเงินระดมทุนของ TAE ก้อนนี้ไปลงทุน ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัทฯย่อย"น.ส.เพชรรัตน์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (TAE)เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อจัดสรรจำหน่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น จาก 371 ล้านบาท หรือ 37.10 ล้านหุ้น เพิ่มเป็น 450.50 ล้านบาท หรือ 45.05 ล้านหุ้น โดยออกหุ้นใหม่ 7.95 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาทให้ผู้ถือหุ้นจองซื้อหุ้นใหม่ในอัตราหุ้นเดิม 14 หุ้นต่อ 3 หุ้นใหม่ เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตเอทานอล(สายการผลิตที่ 2) ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
LANNA จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสิทธิที่ได้รับการจัดสรรจำนวน 6,022,500 หุ้นเป็นเงิน 60,225,000 บาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น TAE ไว้เท่าเดิมร้อยละ 75.75 ของทุนที่ชำระ
ปีนี้ 2550 แม้ราคาถ่านหินจะพุ่งขึ้นสูง แต่บริษัทฯก็ยังไม่ได้รับประโยชน์จากตรงนี้ เพราะบริษัทฯได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินของปีนี้(2550)ไปแล้ว อย่างไรก็ดี คาดว่าจะได้รับประโยชน์ในปีหน้า(2550)ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯดีขึ้นด้วย
ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชี LANNA กล่าวว่า ปีนี้ 2550 บริษัทฯทำหน้าที่จำหน่ายถ่านหินให้กับบริษัทลูกในต่างประเทศ แต่ปีหน้าคาดว่าจะให้สิทธิบริษัทลูกขายถ่านหินโดยตรงได้เอง ซึ่งรายได้ของ LANNA จะลดลง แต่ตัวมาร์จินจะยังคงเท่าเดิม เพราะกรณีที่บริษัทลูกขายโดยตรง LANNA ก็ยังคงรับค่าคอมมิชชั่นเท่าเดิม
"เดิมเราขายให้เขาแล้วเราก็คิดเพิ่มในส่วนคอมมิชชั่นของเราเพื่อที่จะไปชาร์จกับลูกค้า ปัจจุบันเราก็ให้เขาขายตรง แต่เราเป็นผู้ทำหน้าที่ขายให้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่ารายได้ไปเข้าเขา แต่ก็มาจ่ายคอมมิชชั่นเรา กำไรก็ยังเท่าเดิม เพียงแต่รายได้ก็อาจจะลดลง"ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชี LANNA กล่าว
น.ส.เพชรรัตน์ กล่าวว่า สำหรับ PT. LANNA MINING SERVICES (LMS) แห่งประเทศอินโดนีเซีย ผู้พัฒนาแหล่งถ่านหินแหล่งที่ 3 ในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มผลิตถ่านหินออกจำหน่ายได้ประมาณปลายปี 2550 ถึงต้นปี 2551 และบริษัทฯคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้า
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--