นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM)และ ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก ส่งผลให้ภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ประเมินสถานการณ์หลังผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 จับพฤติกรรมผู้บริโภค เร่งวางกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ "New Normal" เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ ซึ่งในส่วนของ TQM คาดการณ์ "New Normal" ที่จะเป็นเทรนด์ใหม่และเป็นโอกาสทางธุรกิจของบริษัทที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ได้แก่
1. Digital is a new life เทรนด์ดิจิทัลจะกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของผู้คน โควิด-19 ทำให้เกิด Social distancing กระตุ้นให้ผู้คนปรับตัวสู่โลกดิจิทัล สั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ ใช้จ่ายแบบไร้เงินสด และปรับการทำงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ในภาวะไม่ปกติ และพฤติกรรมเหล่านี้จะยังคงอยู่แม้จะพ้นวิกฤติไปแล้ว สำหรับวงการประกัน ผู้บริโภคหันมาซื้อประกันภัยผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงโควิด -19 ระบาดลูกค้าซื้อประกันโควิด-19 ผ่านช่องทางออนไลน์ถึง 90% ส่งผลให้ผู้บริโภคเรียนรู้และคุ้นชินกับการซื้อประกันออนไลน์ ที่สะดวก รวดเร็ว คุ้มครองทันที ซึ่งพฤติกรรมนี้จะเป็นกลาย New Normal ใหม่
2. Health-Conscious เทรนด์สุขภาพ ผู้คนจะให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น เพราะสถานการณ์โควิด- 19 ทำให้ผู้คนเริ่มวางแผนด้านสุขภาพและเตรียมพร้อมด้วยการหาประกันมาเป็นหลักในการดูแลสุขภาพและเป็นสวัสดิการคุ้มครองตัวเอง เพื่อเตรียมรับมือกับโรคอุบัติเก่าและโรคอุบัติใหม่ โดยที่ผ่านมามีผู้ซื้อประกันโควิดกับ TQM กว่า 1 ล้านกรมธรรม์ และโดยมากซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งยังพบว่าตัวเลขผู้ซื้อกรมธรรม์คุ้มครองโรคอื่น ๆ อาทิ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออกในปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจากการที่ผู้คนจะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น TQM จึงได้เพิ่มบริการ Tele Health Consult ที่มีทีมแพทย์กว่า 400 คน คอยให้คำปรึกษาด้านสุขภาพในเบื้องต้น
3. New ways of living เทรนด์ชีวิตวิถีใหม่ ใหม่ ผู้คนในสังคมมีรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่ๆ รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปจากพนักงานประจำเป็นฟรีแลนซ์มากขึ้น ด้านการใช้ชีวิตประจำวัน จะระมัดระวังตนเองและตระหนักถึงความเสี่ยงของชีวิต ทำให้มองหาการลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงในชีวิตมากขึ้น จากโรคภัยไข้เจ็บและการว่างงานแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งประกันจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เพื่อเป็นหลักประกันให้กับชีวิตกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยจนขาดรายได้เหมือนสถานการณ์ที่ผ่านมา
และ TQM ยังพบว่าผู้บริโภคมองหาประกันที่ยืดหยุ่นเหมาะกับตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดประกันภัยมีโอกาสเติบโตสูง ปัจจุบันประเทศไทยยังมีสัดส่วนกรมธรรม์ต่อประชากรน้อย ซึ่งยังเป็นอัตราที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาที่มีอัตรากรมธรรม์สูงเกือบ 100% โดยคาดการณ์ว่าปีนี้อัตราผู้ถือกรมธรรม์ในตลาดรวมขึ้น
ด้านนางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM กล่าวเสริมว่า โควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้ทุกธุรกิจต้องทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ โดยในส่วนของ TQM ได้เร่งปรับแผนทรานส์ฟอร์มเมชั่นภายใต้แนวคิด "Hi-Tech เข้ากับ Hi-Touch" ที่นำเอาจุดเด่นของเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสมผสานกับบริการจากพนักงานแบบครบจบในที่เดียว โดยหัวใจหลักคือ การให้บริการผ่านระบบและพนักงาน TQM แบบไร้รอยต่อ เพื่อสร้างบริการที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่และคงความเป็นผู้นำด้าน Insurance Tech Broker
TQM ได้พัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ "New Normal" โดยล่าสุดพัฒนางานขายและงานบริการใหม่ ‘TQM 24 Smart Services’ บน Line TQM Insurance Broker https://lin.ee/36WqybQ แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเข้าใช้งานได้ง่ายและสะดวกที่สุด เป็นบริการที่ผสมผสานงานออฟไลน์กับออนไลน์เข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถเลือกว่าจะแชทกับ Bot แชทกับพนักงาน หรือโทรคุยกับพนักงานที่คอยให้บริการกว่า 2,000 คน พร้อมช่องทางการชำระเงินทั้งแบบเงินสดและบัตรเครดิต รวมถึงบริการหลังการขาย เช็คกรมธรรม์ ค้นหาอู่ แจ้งเคลมได้ทุกประกันที่ซื้อกับ TQM สร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ซึ่งตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
ทั้งยังได้มุ่งพัฒนาโปรดักท์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์และสอดรับกับทุกความต้องการของผู้บริโภคในราคาที่สมเหตุสมผล ยืดหยุ่นตามวิถีชีวิตใหม่ อาทิ โปรดักท์ประกันภัยซีรีย์ ‘ประกันเบาใจ’ เพื่อให้คนวัยทำงานได้มีหลักประกันให้ชีวิต แม้ในวันที่ต้องเผชิญภาวะวิกฤตที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในอนาคต ซึ่งการบริหารความเสี่ยงของชีวิตด้วยการลงทุนผ่านกรมธรรม์ถือเป็นการวางแผนชีวิตที่ผู้บริโภคเริ่มหันมาพิจารณาเลือกลงทุนกันมากขึ้น