โบรกฯเชียร์"ซื้อ"PYLON มองโควิดคลี่คลายหนุนผลงาน Q3/63 ฟื้นจากชะลอใน Q2

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 27, 2020 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.ไพลอน (PYLON) แม้มองแนวโน้มงบการเงินไตรมาส 2/63 ได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ความชัดเจนของงานใหม่ถูกเลื่อนออกไป และการเข้าไปทำงานในพื้นที่ก่อสร้างยังมีข้อจำกัด ทำให้มีการเลื่อนส่งมอบงานออกไปด้วย กระทบกับการรับรู้รายได้ของ PYLON ส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 จะอ่อนตัวลงหลังจากไตรมาสแรกทำผลงานนิวไฮ

อย่างไรก็ตามหลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย คาดว่าจะมีความชัดเจนของงานใหม่ที่เลื่อนออกไป โดยเฉพาะงานโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ และงานอื่น ๆ ที่จะตามมาเพิ่มเติม ซึ่ง PYLON มีโอกาสที่จะคว้างานได้เพิ่ม ทำให้มีมูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/63 และจะกลับมาส่งมอบงานที่ชะลอออกไปได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/63 ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ PYLON

พักเที่ยงราคาหุ้น PYLON อยู่ที่ 4.26 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.06%

           เอเซีย พลัส                     ซื้อ                          5.80
           เอเชีย เวลท์                    ซื้อ                          5.60
           หยวนต้าฯ                       ซื้อ                          5.10
           กสิกรไทย                       ซื้อ                          5.00
           บัวหลวง                        ซื้อ                          4.80

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส แนะนำ "ซื้อ" PYLON ราคาเป้าหมาย 5.80 บาท/หุ้น แม้ว่าจะมีถูกโควิด-19 กดดันให้งานประมูลต่างๆเลื่อนออกไป ทั้งงานโครงการลงทุนของภาคเอกชน และงานประมูลโครงการภาครัฐที่เกิดความล่าช้า แต่คาดว่าในช่วงไตรมาส 3/63 PYLON มีโอกาสที่จะได้รับทำงานใหม่บางส่วนในโครงการรถไฟความเร็วสูง และโครงการทางด่วนดาวคะนอง-พระราม 3 เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะหนุน Backlog ให้เพิ่มขึ้น จากสิ้นไตรมาส 1/63 มี Backlog ที่ 650 ล้านบาท

โดยที่ยังมองภาพของการลงทุนจะกลับมาอีกครั้งหลังจากโควิด-19 คลี่คลายลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้มีงานโครงการประมูลใหม่ๆออกมา ส่งผลบวกต่อธุรกิจของ PYLON ในอนาคต ซึ่งในไตรมาส 2/63 มองว่าจะเป็นไตรมาสที่ผลการดำเนินงานพักตัวลงมา จากมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเข้าพื้นที่งานก่อสร้างได้เต็มที่ กระทบต่อการส่งมอบงานที่เลื่อนออกไป และในปีนี้ด้วยปริมาณงานที่ลดลงคาดว่าแนวโน้มรายได้จะทรงตัวหรือลดลงจากปีก่อนที่ 1.5 พันล้านบาทเล็กน้อย

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" PYLON ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท/หุ้น จากแนวโน้มของงานใหม่ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 100-200 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3/63 ซึ่งมีการเลื่อนเซ็นสัญญามาจากไตรมาส 2/63 จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามากระทบ และมีโอกาสจะได้รับงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ โดยเฉพาะงานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่มีมูลค่างานฐานรากสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่ง PYLON มีโอกาสได้รับงานส่วนหนึ่งเข้ามา แต่ยังต้องความชัดเจนของโครงการในช่วงครึ่งปีหลังนี้

ขณะที่ด้านผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/63 น่าจะเป็นไตรมาสที่ทำนิวไฮรอบปี หลังคาดว่าในไตรมาส 2/63 จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เข้ามาค่อนข้างมาก เนื่องจากไม่มีงานใหม่เข้ามาเพิ่ม และการส่งมอบงานอาจจะเลื่อนออกไป ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก แต่มองว่าหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 บ้างแล้วในปัจจุบัน ก็จะเริ่มกลับมาทยอยส่งมอบงาน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการทยอยส่งมอบงานมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/63 โดย PYLON มียอด Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1/63 รองรับรายได้อยู่ที่ 650 ล้านบาท

นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย แนะนำ "ซื้อ" PYLON ราคาเป้าหมาย 5 บาท/หุ้น หลังไตรมาส 1/63 ที่ผ่านมาสามารถทำกำไรนิวไฮ แต่ในไตรมาส 2/63 คาดว่าจะเห็นการอ่อนตัวลงจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้การเข้าพื้นที่เพื่อทำงานโครงการมีข้อจำกัดมากขึ้น แม้ว่าจะมีวันทำงานมากขึ้นกว่าปกติในช่วงเดือนเม.ย.ที่ปีนี้ไม่มีวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ตาม ส่งผลให้งานในบางโครงการอาจจะต้องเลื่อนการส่งมอบงานออกไป ส่งผลต่อรายได้ที่เข้ามาอาจจะเลื่อนไปรับรู้ในช่วงไตรมาส 3/63 เป็นต้นไปแทน

นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากงานในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอการพัฒนาโครการคอนโดมิเนียมลดลง ทำให้ปริมาณงานฐานรากของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์หายไปค่อนข้างมาก และงานโครงการภาครัฐที่มีความล่าช้าออกไปจากโควิด-19 ทำให้งานประมูลชะลอออกไป แต่ยังมองว่าในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเริ่มมีงานใหม่ๆออกมา ทำให้ยังมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าหากมีงานใหม่ๆออกมาในช่วงครึ่งปีหลัง มองว่าปริมาณ Backlog ของ PYLON ก็มีโอกาสขึ้นไปแตะ 1.2 พันล้านบาท จากไตรมาส 1/63 ที่มี Backlog ที่ 650 ล้านบาท ซึ่งมองว่าหากสถานการณ์เริ่มกลับมาปกติ การลงทุนภาครัฐและเอกชนจะกลับมา ช่วยหนุนภาพรวมในระยะต่อไปได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ