น.ส.จันทนา สุขุมานนท์ รองประธานบริหาร บมจ.ปูนซิเมนต์นครหลวง (SCCC) คาดว่า ยอดขายในปีนี้จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้จากยอดขาย 2.3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่บริษัทได้ปรับขึ้นราคาค่าขนส่ง รวมทั้งในภาคการส่งออกมีปริมาณและราคาสูงขึ้น ตามความต้องการในตลาดโลกที่เติบโตมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทปรับราคาขนส่งเพิ่ม 10% ตามราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น รวมทั้งราคาส่งออกปูนซิเมนต์ที่ปรับขึ้นเป็น 30 เหรียญ/ตัน จากปีก่อนที่ 28 เหรียญ/ตัน
นอกจากนั้น บริษัทยังพยายามลดต้นทุนค่าขนส่งด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซ NGV ในรถขนส่งที่มีอยู่ประมาณ 1,000 คันเพื่อลดต้นทุนด้านค่าพลังงานด้วย
น.ส.จันทนา คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังปริมาณความต้องการปูนซิเมนต์จะปรับสูงขึ้นจนสามารถชดเชยยอดขายในประเทศที่ลดลงไปในครึ่งปีแรกราว 3-4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามภาพรวมอุตสาหกรรม เนื่องจากมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา จากที่เคยลดลงไปจากปัญหาการเมือง
นอกจากนั้น ครึ่งปีหลังจะเห็นภาพการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจคต์ของภาครัฐออกมาชัดเจนขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้เกิดการใช้จ่ายและการลงทุน รวมถึงปริมาณการสั่งซื้อปูนซิเมนต์ด้วย อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าปริมาณฝนจะตกน้อยกว่าช่วงครึ่งปีแรก จะส่งผลดีต่อการก่อสร้าง และในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจก็น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ปูนฯ ขึ้นกับภาวะทางเศรษฐกิจ เพราะหากเศรษฐกิจชะลอลงความต้องการใช้ก็จะลดลงตามไปด้วย
ปัจจุบัน ปริมาณการใช้ปูนฯโดยรวม 45 ล้านตัน แบ่งเป็นในประเทศ 31 ล้านตันที่เหลือเป็นส่งออก 12-15 ล้านตัน โดยส่วนแบ่งตลาดของ SCCC มีทั้งหมด 14 ล้านตัน แบ่งเป็นขายในประเทศ 8 ล้านตัน ส่วนที่เหลือส่งออก
"เราหวังว่าปีนี้คงทำให้ผลประกอบการเราเติบโต ซึ่งหลังจากทุกอย่างออกมาในภาพที่ดี เราพยายามควบคุม cost ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาต่อการจ่ายปันผลระหว่างกาล ซึ่งเป็นนโยบายของบริษัทอยู่แล้ว" น.ส.จันทนา กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--