นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล (KOOL) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะสามารถกลับมามีกำไรได้อย่างแน่นอน แม้ว่าช่วงไตรมาส 1/63 จะมีผลขาดทุนอยู่ 11.39 ล้านบาท โดยทิศทางผลประกอบเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/63 จากการปรับกลยุทธ์การขายไปยังตลาดออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเติบโตได้ค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันภาครัฐบาลยังได้มีการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ส่งผลให้ช่องทางการขายผ่านโมเดิร์นเทรดเริ่มกลับมาฟื้นตัว
นอกจากนี้บริษัทได้มีการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น จากไตรมาส 1/63 ที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ 8.75 ล้านบาท และยังมีการตั้งด้อยค่าตามมาตรฐานบัญชีใหม่ แต่ไตรมาส 2/63 จะไม่มีแล้ว พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ทั้งนี้ บริษัทยังจะมีการพัฒนาสินค้าในกลุ่มและเพิ่มสินค้าในกลุ่มเพื่อสุขภาพ อาทิ กลุ่มสินค้าฆ่าเชื้อโรค และปรับปรุงคุณภาพอากาศ ที่ปัจจุบันมีความต้องการเข้ามามากขึ้น จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปัญหาหมอกควัน
"ในช่วงไตรมาส 1/63 ที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามเราก็ได้แก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการทำประกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะเดียวกันเรายังได้มีการปรับกลยุทธ์การจำหน่ายสินค้า และจะไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเหมือนไตรมาส 1/63 อีก เราจึงมั่นใจว่าผลประกอบการทั้งปีจะกลับมามีกำไรแน่นอน"นายนพชัย กล่าว