นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเฉพาะตลาดหุ้นออสเตรเลีย และตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดอื่น หลังจากที่จะมีการทยอยเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ทำให้มีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นได้
ส่วนบ้านเราก็น่าจะได้เห็นแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ยัง underperform อยู่ จากที่ปรับตัวลงมา 35% นับจากต้นปี ทำให้มีแนวโน้มที่จะกลับมาเล่นเก็งกำไรกัน รวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินที่เริ่มเห็นแรงเก็งกำไรเข้ามา
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการคลายล็อกดาวน์ เฟส 3 ซึ่งในรอบนี้อาจจะทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์, สปา น่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้ ซึ่งก็เริ่มเห็นการฟื้นตัวล่วงหน้าแล้ว ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงเป็นปัจจัยรบกวน และฝั่งยุโรปที่มีแผนจะกระตุ้นเศรษฐกิจ คงจะต้องรอให้ทางการอนุมัติก่อน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกในระยะถัดไป
พร้อมให้แนวรับ 1,338-1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,548.27 จุด พุ่งขึ้น 553.16 จุด (+2.21%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,036.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.36 จุด (+1.48%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,412.36 จุด เพิ่มขึ้น 72.14 จุด (+0.77%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 193.67 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 94.61 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.96 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 15.88 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.23 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.80 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 9.44 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 พ.ค.63) 1,345.11 จุด เพิ่มขึ้น 9.02 จุด (+0.68%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,820.55 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 พ.ค.63) ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 4.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 พ.ค.) อยู่ที่ -1.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.88 ทรงตัวจากวานนี้ ให้กรอบวันนี้ 31.85-31.95 ตลาดรอปัจจัยใหม่
- ศาลล้มละลาย รับคำร้องฟื้นฟูการบินไทย เข้าสู่ภาวะพักชำระหนี้ นัดไต่สวน 17 ส.ค.นี้ แจงเหตุผลยื่นศาล มีหนี้ 3.5 แสนล้านบาท เข้าภาวะจ่ายหนี้ 21 พ.ค.วงเงิน 1 หมื่นล้านบาทไม่ได้ ด้าน"วิษณุ" คาดอีก 6 เดือน เริ่มกระบวนการฟื้นฟู ส่วน"ไพรินทร์" ลาออกจากบอร์ดการบินไทย หวั่นขัดกฎหมาย ป.ป.ช. ขณะ "ทริส" หั่นเรทติ้งบินไทยเหลือ "D"
- แบงก์ชาติ แจงมาตรการช่วยเหลือรายย่อย-ภาคธุรกิจ ผ่าน 3 มาตรการใหญ่ เผยช่วยลูกหนี้รายย่อย พักชำระหนี้แล้วกว่า 15 ล้านคน รวมมูลหนี้ กว่า 6.6 ล้านล้านบาท พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินใหม่ผ่านมาตรการซอฟท์โลนแล้วกว่า 1.5 แสนล้านบาท ย้ำช่วงโควิด ธปท.ลดดอกเบี้ยรวมแล้ว 1% ดึงดอกเบี้ยเงินกู้แบงก์ลงราว 0.62-0.95%
- กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หวังธนาคารพาณิชย์ลดความเข้มงวดปล่อยสินเชื่อบ้าน หวั่นกระทบผู้ประกอบการมีปัญหาขนาดสภาพคล่องได้ ด้านศูนย์ข้อมูล คาดสิ้นปี 63 สต็อกเหลือขายพุ่งสู่ระดับ 212,750 หน่วย เงินจมกว่า 1.34 ล้านล้านบาท
- สศอ.เผย MPI เดือนเมษายน 2563 แตะ 79.04 ต่ำสุดในรอบกว่า 8 ปี จากผลกระทบโควิด-19 ส่งผลอุตสาหกรรมต้องหยุดผลิตชั่วคราวในบางส่วน ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารรับอานิสงส์พลิกขยายตัวครั้งแรกรอบ 9 เดือน
- นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวภายหลังยื่นหนังสือคัดค้านกรณีที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำเสนอการช่วยเหลือต่อกรมสรรพสามิต ให้ลดภาษีรถยนต์ใหม่ หรือซื้อรถเก่าแลกรถใหม่ส่วนลดสูงสุด 1 แสนบาทว่าข้อเสนอดังกล่าวจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วอย่างมาก
*หุ้นเด่นวันนี้
- III-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 152,326,837 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 6 บาท/หุ้น กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 พ.ย.63 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 13 พ.ค.66
- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 210 บาท ได้ประโยชน์จากการ Reopen การคลาย lockdown ผู้คนเริ่มเดินทางต่างประเทศ และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของไทย เพราะรายได้จาก International roaming และซิมนักท่องเที่ยวจะกลับมา ส่วนกสทช.ยืดเวลาการชำระค่าใบอนุญาตให้ครึ่งหนึ่งเป็นเวลา 2 เดือน ช่วยสภาพคล่องได้ราว 1.3 พันล้านบาท ด้านกำไร Q2/63 น่าจะหดตัว Q-Q, Y-Y และทั้งปีหดตัวชั่วคราว -10% Y-Y แต่ระยะยาวได้ประโยชน์จากจากสถานการณ์ปัจจุบันที่กระตุ้นการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต
- MINT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 25 บาท ได้ Sentiment บวกจากภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่วนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศก็มีปัจจัยบวกจากข่าวสเปนประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป ขณะที่เยอรมนีเตรียมยกเลิกคำเตือนการเดินทางไป 31 ประเทศในยุโรปในช่วงกลางเดือน มิ.ย.ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิม ถือเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อธุรกิจโรงแรมของ MINT ในยุโรป โดยเฉพาะโรงแรม NH Hotel ในสเปน