(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ข่าวโวดาโฟนซื้อเวริซอน ดันดาวโจนส์บวก 43.73 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเกือบแตะระดับ 14,000 จุดเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวที่ว่าบริษัทโวดาโฟนให้ความสนใจเข้าซื้อกิจการบริษัทเวริซอน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 43.73 จุด หรือ 0.31% ปิดที่  13,950.98 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 2.98 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 1,549.52 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 9.67 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 2,697.33 จุด
          ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.36 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.75 พันล้านหุ้น
          ขณะที่ดัชนีตัวอื่นๆปิดในแดนลบนั้น ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 14,000 จุดเพราะได้รับปัจจัยหนุนหลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า บริษัทโวดาโฟน กรุ๊ป พีแอลี ให้ความสนใจเข้าซื้อกิจการบริษัทเวริซอน คอมมูนิเคชั่นส์ มูลค่าสูงถึง 1.60 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้โวดาโฟนเป็นผู้บริหารเวริซอน ไวร์เลส์เต็มตัว
          นายเกร็ก เชิร์ช นักวิเคราะห์จากบริษัทเชิร์ช แคปิตอล เมเนจเมนท์กล่าวว่า "นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับข่าวดังกล่าวทันที เพราะวงเงินในการทำธุรกรรมครั้งนี้สูงถึง 1.60 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ นักลงทุนจึงไม่อยากให้เป็นเพียงข่าวลือ"
          ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวหนุนหุ้นเวริซอนพุ่งขึ้น 2.4% แต่ฉุดหุ้นโวดาโฟนร่วงลง 37 เซนต์ ปิดที่ 33.15 ดอลลาร์
          "นอกเหนือจากข่าวที่โวดาโฟนให้ความสนใจซื้อกิจการเวริซอนแล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่ส่งเข้ามาในหุ้นบริษัทคาเตอร์พิลลาร์ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการก่อสร้าง และหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีนส์ ซึ่งทำให้หุ้นทั้ง 2 ตัว พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับสูงสุดระดับใหม่" นายเชิร์ชกล่าว
          อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 22 เซนต์ แตะระดับ 74.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสกุลเงินดอลลาร์ที่ผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆนั้น ทำให้ตลาดถูกกดดันและทำให้ช่วงบวกถูกสกัดลงด้วย
          หุ้นไอฮอปซึ่งเป็นผู้ประกอบการเครือข่ายภัตตาคารรายใหญ่ พุ่งขึ้น 8.9% และหุ้นแอ็ปเปิ้ลบี ดีดขึ้น 2.2% จากข่าวที่ว่าไอฮอปเตรียมเข้าซื้อกิจการแอ็ปเปิ้ลบี มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ 
          ขณะที่หุ้นแมคโดนัลด์ ดีดขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 52.10 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2  ส่วนหุ้นแมทเทล พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 15% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายตุ๊กตาบาร์บี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก