นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อยราว 0.4-0.5% รับแรงกดดันจากความตึงเครียดสถานการณ์ระหว่างจีน และสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกมาเปิดเผยว่า จะประกาศนโยบายฉบับใหม่ของสหรัฐที่จะดำเนินการกับจีนในวันนี้ เนื่องจากไม่พอใจที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง
นอกจากนี้ วันนี้ MSCI ก็จะมีการปรับน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยด้วย ทำให้ช่วงท้ายตลาดอาจมีความผันผวนได้ โดยจะมีการปรับลดน้ำหนักลงทุนจาก 2.39% เป็น 2.36% คิดเป็นเงินราว 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งทางกรมสรรพสามิตได้ปฏิเสธข้อเสนอการลดภาษีรถยนต์ 50% เนื่องจากมองไม่ช่วยกำลังซื้อและเป็นการแทรกแซงตลาดด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,358-1,360 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,400.64 จุด ลดลง 147.63 จุด (-0.58%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,029.73 จุด ลดลง 6.40 จุด หรือ -0.21% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,368.99 จุด ลดลง 43.37 จุด (-0.46%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 108.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 10.64 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 351.65 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 23.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 10.17 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 20.93 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 6.96 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 30.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 พ.ค.63) 1,337.51 จุด ลดลง 7.60 จุด (-0.56%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 770.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 พ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 พ.ค.63) ปิดที่ 33.71 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 2.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 พ.ค.) อยู่ที่ -1.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.84/88 แนวโน้มเคลื่อนไหวตามทิศทาง Flow ในตลาด จับตาสถานการณ์โควิด
- สรรพสามิต ปัดลดภาษีรถยนต์ใหม่ลง 50% ชี้ไม่ช่วยหนุนกำลังซื้อ ทั้งยังเป็นการแทรกแซงกลไกตลาดโดยไม่จำเป็น ขณะที่ผู้ประกอบการเตรียมพบนายกรัฐมนตรียื่นข้อเสนอรถยนต์เก่าแลกรถยนต์ใหม่ พร้อมขอขยายเวลาการใช้ ยูโร 5 และ 6 ออกไป หวังกระตุ้นยอดขาย ชี้ขณะนี้ยอดขายตกแล้ว 50-60%
- ปตท.ปรับลดแผนลงทุนปี 63 เป็น 5.39 หมื่นล้านบาทจากเดิมที่ตั้งไว้ 6.93 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ลดงบในโครงการที่ยังไม่เริ่ม ทั้งในส่วนที่ ปตท.ถือหุ้น 100%, ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และกลุ่มเทคโนโลยีฯ
- "สุริยะ" เผยแนวโน้มต่างชาติย้ายฐานการลงทุนจากจีนมาไทยเพิ่มขึ้นหลังผลกระทบโควิด-19 และเทรดวอร์ ลั่นอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ยังปักหลักในไทยพร้อมขยายลงทุนเพิ่ม รับข้อเสนอเอกชนเล็งถกสศช.ดึงงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ประเดิมตั้งกองทุนร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 5,000 ล้านบาทเสริมสภาพคล่องเอื้อขยายกิจการ
-"สภาพัฒน์" ประเมินผลกระทบจากโควิด-19 เสี่ยงทำคนตกงานถึง 8.4 ล้านคน คาดคนว่างงานระดับสูงสุดปีนี้อยู่ที่ 3-4% ของแรงงานทั้งระบบ ใกล้เคียงวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 ห่วงเด็กจบใหม่กว่า 5 แสนรายหวั่นตลาดแรงงานอาจรองรับได้ไม่เพียงพอ
- นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (บีB100) ว่า ได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาปรับใช้การซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) เพื่ออ้างอิงราคาผลปาล์มของเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมที่เบื้องต้นกำหนดจะทำโครงการนำร่อง ภายใน 2 สัปดาห์นี้
- นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงที่ต้องระมัดระวัง แม้จะเห็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัว โดยมองจีดีพีไตรมาส 2 ติดลบ 13% และจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง และทั้งปีจีดีพีจะติดลบ 5% พร้อมคาดหวังการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มกลับมาในช่วงไตรมาส 3 และนักท่องเที่ยวจีนหรือเอเชียเริ่มกลับเข้ามาในช่วงไตรมาส 4
*หุ้นเด่นวันนี้
- BCPG (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 19.8 บาท เป็นหุ้น Defensive ที่ Valuation ไม่แพงซื้อขายบน PE ต่ำเพียง 13-14 เท่าจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 5-6% ต่อปี นอกจากนี้ยังมี Growth story จากจำนวนเมกะวัตต์ที่เพิ่มขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้า Nam San 3A และ 3B ในเวียดนาม, โรงไฟฟ้าพลังงานลม Swan กำลังการผลิต 270MW ในลาว และโรงไฟฟ้า solar สี่แห่ง 75MW ในญี่ปุ่น ช่วยหนุนให้กำไรสุทธิของ BCPG เติบโตต่อเนื่องในปีนี้
- CPF (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 36 บาท เป็นหุ้นปลอดภัยเมื่อสหรัฐ-จีนตึงเครียดกันอีกครั้งเพราะอยู่ในกลุ่มอาหารและได้ประโยชน์จากราคาหมูในเวียดนามที่ปรับสูงขึ้นมากเป็น 1 แสนดอง/กก. ส่วนความต้องการเริ่มกลับมาหลังการคลาย lockdown และได้อานิสงส์จากลูกค้าในเอเชียหันมาการนำเข้าไก่จากไทยมากขึ้น เพราะคู่แข่งรายใหญ่อย่างสหรัฐและบราซิลได้รับผลกระทบ โควิด-19 ทำให้หลายโรงชำแหละปิดตัวลงชั่วคราว ทั้งนี้ อาจมี Bio gain ก้อนใหญ่ใน Q2/63 เพราะราคาเนื้อสัตว์สูงขึ้น
- MSCI Rebalance วันนี้ หุ้นไทยที่ได้เข้าคำนวณมี AWC, BAM, KTC ส่วน BANPU ถูกนำออกจาก Global Standard Index ไปเข้า Small cap แทน ดัชนี MSCI Small cap ยังมีหุ้น 16 ตัวที่ถูกนำออกจากดัชนี มีผล 29 พ.ค. (ฟินันเซีย ไซรัส)