(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามภูมิภาค

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ฟื้นตัวขึ้น จากคลายความกังวลมาตรการของสหรัฐฯที่มีต่อจีน หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงนโยบายออกมาก็ไม่ได้มีการตอบโต้จีนแต่อย่างใด เพียงแต่ประกาศยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง ทำให้มองสหรัฐฯ และจีนยังคงเจรจาการค้ากันอยู่ และไม่ได้มีอะไรน่ากังวลมากเหมือนอย่างที่กังวลกันก่อนหน้านี้

ส่วนบ้านเราคงจะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นไป 5.3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และพุ่งขึ้น 88.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2526 ทำให้น่าจะไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีได้ ทั้งนี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเป็นผลจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯได้ลดลงมาก และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่จะมีการปลดล็อกดาวน์ เฟส 3 ในประเทศด้วย

อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ และติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไปด้วย รวมถึงรอดูว่าจะมีประเด็นอะไรออกมาอีกหรือไม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 5,000 ล้านบาท อาจช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง หากมีการซื้อต่อเนื่องอีก

พร้อมให้แนวรับ 1,335 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 พ.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,383.11 จุด ลดลง 17.53 จุด (-0.07%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,044.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.58 จุด (+0.48%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,489.87 จุด เพิ่มขึ้น 120.88 จุด (+1.29%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 33.00 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 19.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 578.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 29.24 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.67 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.61 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 47.52 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 พ.ค.63) 1,342.85 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด (+0.40%)
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,498.72 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 พ.ค.63) ปิดที่ 35.49 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ 5.3%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 พ.ค.) อยู่ที่ -2.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 31.76 แข็งค่าเกาะกลุ่มภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 31.70-31.85 จับตาเหตุจลาจลในสหรัฐฯ
สศช.ชงปรับยุทธศาสตร์ชาติก่อนกำหนด รับโอกาสเศรษฐกิจหลังโควิด-19 หารือส่วนราชการปรับแผนแม่บท ชงนายกฯ ต.ค.นี้ "ทศพร" ชูแผนดันเกษตรเทคโนโลยี ท่องเที่ยวคุณภาพ สุขภาพ สร้างเศรษฐกิจฐานราก แนะทำภาคบริการสมัยใหม่นอกภาคท่องเที่ยวสร้างเม็ดเงิน-จ้างงาน
กยศ. รับพิษโควิด-19 กระทบยอดใช้หนี้ปีนี้ต่ำกว่าเป้าหมาย คาดทั้งปีอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมาย 3.2 หมื่นล้านบาท หลังผู้กู้รายได้ลด บางรายตกงาน แจงฐานะยังแกร่ง พร้อมปล่อยกู้ปีนี้ครอบคลุมนักศึกษาเก่า-ใหม่ แน่นอน
คมนาคม บี้ ทอท.เร่งสรุปแผนเช่าสนามบิน ทย.ตั้งธงปิดดีลภายใน ก.ย.63 ย้ำ ทอท.รับไปบริหารต้องลดภาระงบประมาณของรัฐ-อัพเกรดสนามบินอย่างชัดเจน
กรมการค้าภายในรุกคืบออกสารพัดมาตรการกำกับดูแลราคายา-ค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนหลังโควิด-19 คลี่คลาย เตรียมกำหนดเพดานกำไรค่ายาไม่ให้สูงเกินไปเพื่อให้โรงพยาบาลคิดราคาขายยาเป็นธรรมมากขึ้น ไม่เอาเปรียบประชาชนจนเกินไป

*หุ้นเด่นวันนี้

BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23 บาท ผลประกอบการกำลังผ่านจุดต่ำสุดใน Q2/63 แต่การคลาย lockdown และการคุมสถานการณ์ โควิด-19 ที่ดีมาก เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของผู้ใช้บริการในประเทศ แม้การฟื้นตัวจะไม่เร็วเพราะลูกค้าต่างชาติซึ่งมีสัดส่วน 30% ต้องรอการเปิดน่านฟ้าแต่ BDMS มีจุดแข็งที่ผลักดันการเติบโตในระยะยาวได้ จากเครือข่ายรพ.มากที่สุด ครอบคลุมทั่วประเทศ มีธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งบริษัทผลิตยา น้ำเกลือ ร้านขายยา ด้านฐานะการเงินแข็งแรง Net D/E ต่ำ 0.3 เท่า มีเงินสด 1.1 หมื่นล้านบาท มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดปีนี้อีกเพียง 2 พันล้านบาท
PTTGC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 50 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว, คลาย lockdown ช่วยเพิ่มดีมานด์ทั้ง

ฝั่งปิโตรฯและโรงกลั่น และยังได้เปรียบต้นทุนเพราะ PTTGC ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบราคาจะปรับขึ้นช้ากว่าคู่แข่งที่ใช้แนฟทาซึ่งราคาจะปรับขึ้นตามราคานน้ำมันทันที

CRC (เคทีบีฯ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 41 บาท คนกลับมา Shopping อีกครั้ง โดย CRC หรือหุ้นห้างสรรพสินค้า เป็นบวกตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ผ่านจุดวิกฤติมาแล้ว การเปิดห้างฯ เมื่อ 17 พ.ค. เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ และสัปดาห์นี้บรรดาร้านค้าในห้างน่าจะกลับมาเปิดได้แบบปกติ อีกทั้ง CRC ประกาศเข้าซื้อหุ้นแฟมิลี่มาร์ท เพิ่มจาก 49% เป็น 100% หลังพันธมิตรญี่ปุ่นถอนลงทุนไทย จำนวนสาขา ประมาณ 1,000 สาขา เป็นการเพิ่มช่องทางขายให้กับธุรกิจค้าปลีกของ CRC

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามภูมิภาค คลายวิตกสหรัฐฯ-จีน,ราคาน้ำมันพุ่ง