IHL ขยายธุรกิจ-ผนึกพันธมิตร หวังดันกำไรพุ่งทะยานเหมือนช่วงก่อนเข้าตลท.

          บมจ.อินเตอร์ไฮด์(IHL)เผยบอร์ดเตรียมหาแนวทางขยายความร่วมมือกลุ่มซูมิโตโม เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม หลังจากที่เข้ามาถือหุ้นราว 20% คาดได้เห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 3/50 ผนึกกำลังพันธมิตร เร่งขยายธุรกิจมุ่งสู่เป้าหมายเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์จากหนังรายใหญ่ที่สุด และกลับไปเติบโตในระดับ 100% ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
          ล่าสุด ได้ลูกค้าจากค่ายรถยนต์ในญี่ปุ่นป้อนงานให้กับโมเดลรถรุ่นใหม่ คาดว่าผลงานปีนี้น่าจะออกมาดีกว่าที่คาด โดยอาจจะปรับเพิ่มเป้าโตของรายได้ปี 50 เป็น 35-40% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 30% จาก 941 ลบ.ในปีก่อน และน่าจะจ่ายปันผลได้ 2 ครั้งและจ่ายได้สูงกว่าปีก่อน
          นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร IHL เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างวางแผนพัฒนาความร่วมมือกับทางกลุ่มซูมิโตโม หลังจากเข้ามาถือหุ้น 20% ใน IHL โดยจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมบอร์ดช่วงปลายเดือนนี้ และคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนของความร่วมมือในช่วง Q3/50 ซึ่งอาจจะเป็นความร่วมมือกันในเรื่องของวัตถุดิบ        
          "กับซูมิโตโมเรามีสาระสำคัญที่จะทำร่วมกันอยู่เยอะเลย แต่ขอเข้าบอร์ดประชุมในช่วง ก.ค.นี้ก่อนแล้วจึงจะประกาศออกไป และคงจะได้เห็นความร่วมมือระหว่างกันเลย และน่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมากของบริษัท...ในอนาคตเราจะเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ผลิตจากหนังรายใหญ่ของไทย"นายองอาจ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
          นายองอาจ กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ IHL ในช่วง 3-5 ปีจากนี้ไปจะยังมีแนวโน้มที่ดี อัตราการเติบโตของรายได้น่าจะอยู่ที่ 30% ต่อปี โดยคาดว่าภายใน 1-2 ปีนับจากนี้มีโอกาสที่ผลกำไรของบริษัทจะเติบโตในระดับ 100% เหมือนช่วงก่อนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์
          "เราเคยทำได้ดีที่สุดในช่วงก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ตอนนั้นกำไรเราโต 100% และมั่นใจว่าภายในปีสองปีนี้น่าจะได้เห็นเรากลับไปโตแบบนั้นอีก..ในแง่ผลประกอบการอาจจะไม่ดี แต่ว่าผลกำไรดี..เราไม่สนใจว่าเราจะขายเยอะหรือเปล่า เราสนใจแต่ว่ากำไรดีหรือเปล่า"นายองอาจ กล่าว
          สาเหตุที่มั่นใจว่าผลกำไรของบริษัทจะกลับไปเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ เนื่องจากบริษัทกำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัว ขยายธุรกิจ ซึ่ง ณ ขณะนี้บริษัทกำลังสรรหาบุคคลากรเข้ามาร่วมงานด้วยอีกจำนวนมาก และวางแผนขยายกำลังการผลิต ด้วยการประกอบเครื่องจักรใหม่และขยายช่วงเวลาการทำงาน อีกทั้งตอนนี้เพิ่งจะได้ลูกค้าใหม่จากค่ายรถญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มส่งสินค้าให้ได้ในปีหน้า 
          "ตอนนี้เราได้ลูกค้าใหม่เป็นค่ายรถญี่ปุ่น ให้โมเดลใหม่ๆมาแล้ว เพียงยังไม่ถึงเวลาที่ต้องทำ เพราะปกติค่ายรถยนต์จะพวกนี้จะให้โมเดลก่อนล่วงหน้าค่อนข้างนาน โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตในปีหน้า"นายองอาจกล่าว
          นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายตลาดส่งออกเป็น 50% ของรายได้รวมในปี 2553 จาก 30% ในปัจจุบัน หรือคิดเป็นประมาณ 50 ล้านบาทต่อเดือน
*เล็งปรับเพิ่มเป้าปี 50 โตเป็น 35-40% จาก 30%
          นายองอาจ กล่าวว่า บริษัทอาจจะพิจารณาปรับประมาณการรายได้ปี 50 หลังจากได้ข้อสรุปเรื่องความร่วมมือกับซูมิโตโมแล้ว โดยคาดว่าจะมีการปรับเป้าอัตราเติบโตของรายได้เป็น 35-40% จาก 941 ล้านบาทในปี 49 จากเดิมที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 30% 
          ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี
          สำหรับครึ่งปีแรกของปี 50 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ดีกว่าครึ่งปีแรกของปี 49 ค่อนข้างมาก และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังน่าจะยังทำได้ดีต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการที่ค่ายรถยนต์โหมทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นยอดขาย หลังจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัวลง แต่ส่งผลให้ยอดผลิตเบาะรถยนต์ พวงมาลัยรถยนต์ รวมถึงกระปุกเกียร์เพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตรถยนต์ 
          นายองอาจ กล่าวถึงการประชุมบอร์ดที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.ค.นี้ นอกจากจะมีการหารือเรื่องความร่วมมือกับกลุ่มซูมิโตโมแล้ว จะมีการหารือเรื่องการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งงวดปีนี้บริษัทจะพยายามจะจ่ายเงินปันผล 2 ครั้งและอาจจ่ายในอัตราสูงกว่าปีที่แล้วที่จ่ายปันผลไปเพียงครั้งเดียวในอัตราหุ้นละ 1 บาท
          IHL มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
          สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/50 IHL มีรายได้ 333.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 36.78 ล้านบาท ในขณะที่ ปี 49 IHL มีรายได้ทั้งปีที่ 941.15 ล้านบาท กำไรสุทธิ 81.53 ล้านบาท
          ปัจจุบัน IHL มีรายได้จากการผลิตเบาะรถยนต์หนัง พวงมาลัยรถยนต์และกระปุกเกียร์ ให้กับค่ายรถยนต์ชื่อดัง อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มิตซูบิชิ ฟอร์ด และมาสด้า