นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง (ACG) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับตัว เพื่อรับมือเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพัฒนาในส่วนของไอทีเพื่อรองรับการบริการลูกค้าให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับการพัฒนาปรับปรุงระบบการทำงานของทุกภาคส่วนภายในองค์กร เพื่อให้ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที และสิ่งสำคัญคือ การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในส่วนของตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยให้ฝ่าย sales ขายผ่านทาง Facebook และใช้ชื่อของบริษัทฯในการตั้งชื่อเพจ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจจากนี้ไปจะเน้นในส่วนงานซ่อม เนื่องด้วยรายได้จากการให้บริการซ่อมเป็นรายได้ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคตได้อย่างมั่นคง ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจใหม่ (FAST FIT) หรือศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ จึงสามารถกระจายสาขาให้ทั่วภูมิภาคได้รวดเร็ว ซึ่งเบื้องต้นวางแผนจะเปิดอย่างน้อย 5 สาขา ในจังหวัดภูเก็ต ด้วยเงินลงทุนรวมประมาณ 30 ล้านบาท และบริษัทคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น
"การผ่านวิกฤติครั้งนี้ ทาง ACG จะคอย monitor stock รถยนต์ และเห็นความสำคัญของพนักงานโดยไม่มีการปรับลดเงินเดือน โดยมุมมองของผู้บริหารเห็นว่าพนักงานเป็นฟันเฟืองไปสู่ความสำเร็จ และด้วยธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงไม่ได้รับผลกระทบมาก จึงยัง support ให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้และจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้"นายภานุมาศ กล่าว
นายภานุมาศ กล่าวอีกว่า การดำเนินธุรกิจยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทมีเป้าหมายจะขยายสาขาให้ครบ 15 แห่ง ซึ่งจะพิจารณาตามช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง
ทั้งนี้ จากกรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จะนำข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ในฐานะตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Honda มีความเห็นว่าหากภาครัฐมีมาตรการออกมาก็น่าจะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์มีการฟื้นตัว โดยเฉพาะกำลังซื้อผู้บริโภคน่าจะกลับมาสู่ระดับปกติได้เร็วขึ้นอีกด้วย