นางสาวสุนันทรา มหาประสิทธิ์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจชะลอแผนลงทุนใหม่ในปี 63 ออกไปหลังจากสถานการณ์โควิด-19 กระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เกิดการชะลอตัว ดังนั้น บริษัทจึงเลื่อนแผนขยายโรงงานให้เช่า 4 แห่งใหม่, การซื้อคอนโดมิเนียม High Rise และ Low Rise มาพัฒนาต่อ รวมทั้ง การซื้อที่ดินเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ในปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนน้อยกว่าที่วางไว้ 620 ล้านบาท เพื่อรอดูสถานการณ์ให้มีความชัดเจนก่อน
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปี 63 ไว้ที่ 2 พันล้านบาท เติบโต 73% จากปีก่อน เนื่องจากยังมีการทยอยส่งมอบโครงการตามแผนอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในสิ้นไตรมาส 1/63 ที่ 2.4 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีกำหนดรับรู้ในช่วงในช่วงครึ่งปีหลังกว่า 1.5 พันล้านบาท
ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีโครงการสร้างเสร็จและเตรียมทยอยโอนอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40% เริ่มโอนในช่วงไตรมาส 3/63 และโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ มูลค่า 1 พันล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40% เริ่มโอนในช่วงไตรมาส 4/63
นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าระบายโครงการในสต๊อกเพื่อสร้างรายได้กลับมา โดยเฉพาะสต๊อกพร้อมโอนที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ด้วยการจัดแคมเปญการตลาดเขามาช่วยกระตุ้นยอดขาย
นางสาวสุนันทรา กล่าวอีกว่า บริษัทเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 3/63 อีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.36 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการชีวาโฮม รังสิต-ปทุม มูลค่า 1.09 พันล้านบาท เป็นทาวน์โฮมขนาด 385 ยูนิต ซึ่งจะทยอยเปิดเฟสแรก 63 ยูนิต และโครงการฮาร์ท สุขุมวิท 36 มูลค่า 270 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนที่ CHEWA ถือหุ้นในสัดส่วน 70% เป็นทาวน์โฮม 9 ยูนิต
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าตลาดแนวราบยังมีโอกาสในการขายค่อนข้างดี เพราะลูกค้ามีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการเพิ่มขนาดพื้นที่ในการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค New Normal