บลจ.ทหารไทย เปิดกองทุนฯ ใหม่ หลังปิดขาย 2 กองทุนฯ ได้ก่อนกำหนด

          นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดขายกองทุนเปิดทหารไทยพรีเมียร์ 6M1(TMB-Premier Fund 6M1)ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอายุประมาณ 6 เดือน หลังจากประสบความสำเร็จในการขายกองทุนเปิดทหารไทยไพร์มฟันด์ 6M และกองทุนเปิดทหารไทยไพร์มฟันด์ 183D ได้ก่อนกำหนดเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
          "ภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำในขณะนี้ทำให้ผู้ลงทุนต้องมองหาช่องทางการลงทุนอื่นๆ ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต  และเชื่อว่าการออกกองทุนนี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ ได้เป็นอย่างดี" นางโชติกา กล่าว
          กองทุนเปิดทหารไทยพรีเมียร์ 6M1(TMB-Premier Fund 6M1) มีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เปิดให้ผู้สนใจจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 ก.ค.นี้
          กองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยง โดยส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุสัญญา อายุของตราสาร หรือระยะเวลาการฝากเงิน ไม่เกิน 1 ปี เพื่อการสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน
          นอกจากนี้ กองทุนอาจทำสัญญาสวอปและ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และอาจมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(Structured Note) ซึ่งมีการจ่ายผลตอบแทนในการลงทุนโดยอ้างอิงกับสินค้าหรือตัวแปร เฉพาะเมื่อสินค้าหรือ ตัวแปร และโครงสร้างของตราสารประเภทนี้ต้องไม่ขัดกับวัตถุประสงค์และนโยบายของกองทุน
          ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทยพรีเมียร์ 6M1 จะครบอายุโครงการในวันที่ 9 ม.ค.51 ซึ่งบริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในอัตราไม่ต่ำกว่า 3.20 % ต่อปี เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง (ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์) อยู่ที่ 2.13% ต่อปี (หลังหักภาษี 15%)
          สำหรับกองทุนเปิดทหารไทยไพร์มฟันด์ 6M และกองทุนเปิดทหารไทยไพร์มฟันด์ 183D เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทสามารถระดมทุนได้รวม 3,281 ล้านบาท และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีนักลงทุนเข้ามาซื้อกองทุนตราสารหนี้ของบริษัทอย่างต่อเนื่องจนทำให้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนตราสารหนี้ภายใต้การบริหารอยู่ที่ 96,708 ล้านบาท