นางกัลยา ผกากรอง รักษาการ กรรมการผู้อำนวยกการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT)กล่าวว่า บริษัทไม่สามารถชำระคืนหนี้เงินกู้ให้กับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ(เจบิค)ก่อนกำหนด เนื่องจากสัญญาไม่ได้เปิดช่องให้ทำได้ และหากจะมีการแก้ไขเนื้อหาสัญญาจะต้องมีการเจรจากันในระดับรัฐกับรัฐ
แต่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็ได้สวอปหนี้ส่วนใหญ่ที่ขอกู้จากเจบิคมาเพื่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจากสกุลเยนให้เป็นสกุลบาทแล้วกว่า 75% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จากวงเงินกู้ทั้งหมดราว 5 หมื่นล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และยังมีแผนจะสวอปที่เหลือให้ครบทั้ง 100% ซึ่งอยู่ระหว่างรอจังหวะที่เหมาะสม
ล่าสุด บริษัทได้สวอปหนี้สกุลเยนไปเมื่อกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา คิดเป็นเทียบเท่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้อัตราที่ 27.38 บาท ต่อ 100 เยน ทำให้บริษัทได้ประโยชน์มากพอสมควร เนื่องจากขณะที่กู้เงินนั้นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 37 บาท ต่อ 100 เยน
อย่างไรก็ตาม นางกัลยา คาดว่า ในปีนี้บริษัทจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 3 พันล้านบาท เนื่องจากอัตราการแข็งค่าของเงินบาทในปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำไรสุทธิในปีนี้ที่จะไม่ดีกว่าปีก่อนด้วย ประกอบกับมีภาระค่าเสื่อมเพิ่มเข้ามาเป็น 6 พันล้านบาทจากสนามบินสุวรรณภูมิ
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--