โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ที่จังหวัดกระบี่แห่งนี้ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ในไตรมาส 1/64 ในอัตรา 5.08 บาท/ หน่วย และจะได้ FiT Premium อัตรา 0.70 บาท/หน่วย สำหรับ 8 ปีแรก โดยจะใช้ขยะชุมชนจากเทศบาลเมืองกระบี่ เป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งสามารถแปลงขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยนอกจากไม่เกิดกลิ่น หรือควันในการเผาไหม้แล้วยังเป็นการช่วยกำจัดขยะมูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพ และปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทำให้เป็นที่คาดการณ์ว่าในอนาคตจะเกิดโรงไฟฟ้าขยะชุมชนแบบเดียวกันกับที่จังหวัดกระบี่นี้อีกเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมสูงสุดในการเข้าร่วมประมูลและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตดังกล่าว
นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร ของ ACE กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ลงนามสัญญากู้เงินมูลค่า 807.40 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน เทศบาลเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญซึ่งให้การสนับสนุนทางด้านการเงินและแหล่งเงินทุนให้แก่กลุ่มบริษัทมาโดยตลอด รวมทั้งยังพร้อมให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีต่อเนื่องไปในอนาคต ทำให้แผนการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มบริษัทเป็นไปโดยราบรื่น
ปัจจุบัน ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 213.01 เมกะวัตต์ และมีเป้าหมายระยะยาว ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งรวมมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 67 จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โครงการที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาและโครงการในอนาคต ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชนและโรงไฟฟ้าขยะ อันจะส่งผลให้ ACE เติบโตอย่างก้าวกระโดด และต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนี้ โดยล่าสุด ACE มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมกว่า 11,387 ล้านบาท เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของประเทศไทย