หุ้น ITD บวก 4.90% มาอยู่ที่ 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท เมื่อเวลา 10.56 น.โดยเปิดตลาดที่ 7.25 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 7.55 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 7.25 บาท
บล.กรุงศรีอยุธยา แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น ITD โดยจากการเข้าร่วมงานประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 21 ก.ค.50 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ ITD เปิดให้ข้อมูลกับนักวิเคราะห์ มีมุมมองที่ดีต่อ ITD โดยเฉพาะในแง่ของการเติบโตของงานใหม่ แม้ว่าในปี 50 ภาวะงานก่อสร้างในประเทศจะซบเซาแต่บริษัทสามารถมีจำนวนงานที่รับเพิ่มที่โดดเด่น ซึ่งในปี 51 มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นไปอีกเพราะหากมีการเลือกตั้งในต้นปี คาดว่าภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดใหม่อาจมีการผลักโครงการลงทุนภาครัฐใหม่ออกมาได้มากขึ้น
ประกอบกับในแง่ผลประกอบการปี 50 นี้ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเห็นการฟื้นจากผลขาดทุนในปี 49 มากเป็นกำไร เพราะหลายงานที่ขาดทุน บริษัทได้ตั้งสำรองขาดทุนโครงการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้การเติบโตของรายได้จะโดดเด่น แต่ราคาหุ้นค่อนข้างปรับขึ้นมามาก กระทั่งมีการซื้อขายที่ P/E 25 เท่า (เทียบ EPS ปี 51) จึงแนะนำ Trading แต่ในราคาที่อ่อนตัวมากกว่านี้ โดยมีกรอบสูงสุดของราคาที่เหมาะสมปี 51 ที่ 7.00 บาท/หุ้น บนสมมุติฐานกรอบ P/E สูงสุดที่ 25 เท่า
ด้านบล.โกลเบล็ก มอง ITD โดดเด่น ศักยภาพสูง มีความพร้อมทั้งประสบการณ์และเทคโนโลยีจึงมีโอกาสสูงที่จะได้รับงานก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของงานก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศ
โดยปีนี้คาดผลการดำเนินงานจะกลับมาฟื้นตัวหลังจากขาดทุนถึง 2,146 ล้านบาทในปี 49 โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 1,104 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีความเสี่ยงจากการตรวจสอบของภาครัฐในโครงการก่อสร้างที่ ITD มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นของ ITD หากผลการตรวจสอบออกมาในเชิงลบ จึงแนะนำเพียง “ถือ" โดยมีราคาเป้าหมายปี 50 ที่ 7.30 บาท
บล.ยูไนเต็ด ระบุว่า ปัจจุบัน ITD มีงานในมือถึง 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะงานในต่าง
ประเทศ เช่น อินเดีย และอินโดนีเซีย ล่าสุดได้งานทำเหมืองถ่านหินมูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งงานในมือสามารถรับรู้รายได้ภายใน 2.5 ปี
ทั้งนี้ งานในต่างประเทศมีสัดส่วนมากขึ้นเป็น 30% และมีมาร์จินสูง 10% ขึ้นไป และดีกว่าในประเทศที่อยู่ที่ระดับ 6-8% ดังนั้น คาดว่ามาร์จินรวมในปี 50 จะดีกว่าปี 49 โดยคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 4-6 หมื่นล้านในปี 50
ส่วนโครงการเหมืองแร่โปแตซ (takeover มาเมื่อปี 49) คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 51 และรับรู้รายได้ปี 52 และจะสร้างรายได้ 360 ล้านเหรียญต่อปี และคืนทุนภายใน 10 ปี
นอกจากนี้ โครงการรถไฟฟ้าที่คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้เร็ว ๆ นี้ จะช่วยกระตุ้นความน่าสนใจให้กับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--