นายไพศาล จิระกิจเจริญ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จการออกและเสนอขายหุ้นกู้ 25,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1-2 และ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทุกกลุ่มเป็นจำนวนมาก ที่ได้จองซื้อเกินกว่าเกินกว้าเป้าหมายที่เสนอขาย
"บริษัทขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในการลงทุนในหุ้นกู้ของซีพีเอฟเป็นอย่างมาก และขออภัยต่อผู้ลงทุนที่ไม่สามารถจองซื้อได้ตามประสงค์ การออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยเสริมให้ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งมากขึ้น บริษัทมุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเหมาะสม และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงภายใต้วิสัยทัศน์ "ครัวของโลก""นายไพศาล กล่าว
ทั้งนี้ CPF ได้เสนอขายหุ้นกู้ ทั้งหมด 6 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 4 ปี เสนอขายไม่เกิน 10,000 ล้านบาท มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี เสนอขายไม่เกิน 8,000 ล้านบาทมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% โดย 2 รุ่นนี้เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป
หุ้นกู้ชุดที่ 3 เสนอขายไม่เกิน 5,000 ล้านบาท อายุ 4 ปี มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี เสนอขายไม่เกิน 4,000 ล้านบาท มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% หุ้นกู้ชุดที่ 5 เสนอขายไม่เกิน 2,000 ล้านบาท อายุ 12 ปี มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.75% และหุ้นกู้ชุดที่ 6 เสนอขายไม่เกิน 4,000 ล้านบาท อายุ 15 ปี มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% โดยหุ้นกู้ชุดที่ 3 -6 เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่
นายไพศาล กล่าวว่า สำหรับผู้จัดการจำหน่ายหุ้นกู้ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารออมสิน ต่างให้ความเห็นว่าปัจจัยที่ทำให้ผู้ลงทุนตอบรับหุ้นกู้ของซีพีเอฟเป็นอย่างดีนั้น นอกจากจะมาจากผลตอบแทนของหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ฯ ที่ระดับ A+ ซึ่งจัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด แล้ว ยังมาจากการที่ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในความเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานของซีพีเอฟซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่สุดสำหรับการตัดสินใจของนักลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท