นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดรายได้ดอกเบี้ยในไตรมาส 2/63 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ที่ทำได้ 2,085.47 ล้านบาท เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS9) ซึ่งการรับรู้รายได้ยังคงดำเนินต่อเนื่อง แม้ว่าลูกค้าจะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) แล้วก็ตาม และเงินสดที่ลูกค้าชำระหนี้ก็ดีกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้
ขณะที่พอร์ตลูกหนี้ก็คาดจะเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 40,206.99 ล้านบาท เนื่องด้วยบริษัทฯ มีการดูแล ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิด และติดตามดูหลักประกัน
"เรายอมรับว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บ้าง แต่ยังอยู่ในกรอบที่เราสามารถควบคุมได้ ประกอบกับเราก็ยังพบว่าลูกค้าของเรายังมีความพยายามที่จะจ่ายหนี้ตามกำลัง และพนักงานของเราที่มีการไปเยี่ยมลูกค้า ก็ยังพบว่าหลักประกันก็ยังอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ไม่ได้หนีหายไป ซึ่งเรามองผลกระทบดังกล่าวเป็นช่วงสั้น ๆ มากกว่า และเมื่อคนไทยกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้วก็จะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น"นางสาวธิดา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้จะเติบโตประมาณ 20% หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและคนไทยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ในช่วงไตรมาส 3/63 แต่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องติดตามดูภาพรวมเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของคนไทย เพื่อประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานอีกครั้ง โดยบริษัทฯ ประเมินหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 5-6% เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS9) และจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาทางกลุ่มศรีสวัสดิ์ ก็ให้ความช่วยเหลือและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
นอกจากนี้บริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างยื่นขอวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) จากธนาคารออมสิน เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกลุ่มบริษัทฯ และดูแลพอร์ตสินเชื่อ และช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คาดว่าจะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน