(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าไต่ขึ้น จากเงินไหลเข้าหนุนตอบรับทิศทางศก.ดี-น้ำมันฟื้น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มไต่ระดับขึ้น หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 2.5 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สวนทางกลับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งนับว่าเป็น "Big Surprise" ประกอบกับการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปจนถึงเดือนก.ค.จากเดิมจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.นี้ ผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

อย่างไรก็ตามการลงทุนในช่วงนี้แม้ว่าจะมีการประเมินมูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างแพงแล้ว แต่ก็ยังสามารถ Trading ได้จาก Fund Flow ที่น่าจะยังไหลเข้าต่อเนื่อง แม้ว่าเมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิน้อยลง แต่เมื่อเทียบกับตั้งแต่ต้นปีที่ขายออกไปราว 1.9 แสนล้านบาท ขณะที่ซื้อกลับเข้ามาเป็นระดับหลักหมื่นล้านบาทเท่านั้น ทำให้เชื่อว่าน่าจะยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง จากสภาพคล่องที่มีอยู่ในตลาดค่อนข้างมาก และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกมากขึ้น หลังจากที่คาดการณ์ว่าตัวเลขเศรษฐกิจได้ผ่านจุดเลวร้ายสุดมาแล้ว เมื่อมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ที่ออกมาดีมาก ก็ยิ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นอีก

พร้อมให้แนวต้านที่ 1,450 และ 1,460-1,465 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,430 และ 1,420 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 มิ.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,110.98 จุด เพิ่มขึ้น 829.16 จุด (+3.15%) , ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,193.93 จุด เพิ่มขึ้น 81.58 จุด (+2.62%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,814.08 จุด เพิ่มขึ้น 198.27 จุด (+2.06%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 258.25 จุด ,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 33.73 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 59.60 จุด , ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 24.18 จุด ,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิด เพิ่มขึ้น 247.64 จุด ,ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 11.18 จุด ,ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 22.63 จุด

ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพยังดีเปอร์ตวนอากง

• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 มิ.ย.63) 1,435.70 จุด เพิ่มขึ้น 24.69 จุด (+1.75%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 95.90 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.63
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 มิ.ย.63) ปิดที่ 39.55 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.14 ดอลลาร์ หรือ 5.7%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 มิ.ย.) อยู่ที่ -1.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.50 อ่อนค่าจากวันศุกร์ หลังดอลล์แข็งขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีเกินคาด
• ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ แห่รุกแนวราบ พร้อมขายออนไลน์ รับยุคหลังโควิด ขณะที่หมดยุคทองคอนโด ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯเผยสต็อกท่วม 7.6 หมื่นยูนิตปี 62 โควิดซ้ำเติม "คอลลิเออร์ส" ระบุไตรมาสแรกเปิดคอนโดฯใหม่ดิ่งรอบ 8 ปี ยอดขายดิ่งรอบ 10 ปี ท่ามกลางสงครามราคาเดือด ด้าน"เน็กซัส" ห่วงจุดเสี่ยงเศรษฐกิจฟุบยาว ฉุดดีมานด์เช่าสำนักงานวูบ สวนทางซัพพลายเติมตลาดเกือบ 2 ล้านตร.ม. ในอีก 3 ปีจากนี้ ชี้ภาคธุรกิจถูกพิษโควิดเล่นงานส่งสัญญาณขอลดค่าเช่า-ลดพื้นที่ จับตาบิ๊กแบรนด์โกลบอล-ไทย ลดพื้นที่ปิดกิจการ สำนักงานในไทย
• "แบงก์พาณิชย์" ยอมรับแนวโน้ม "หนี้เสีย" กลุ่มสินเชื่อบ้านยังเพิ่มต่อเนื่อง ผลจากพิษโควิดฉุดเศรษฐกิจชะลอ "ไทยพาณิชย์" ย้ำยังผนึกผู้ประกอบการอัดแคมเปญระบายสต็อก แต่ยอมรับระวังปล่อยกู้ ด้าน "กสิกรไทย" เผยระวังปล่อยกู้ในทุกกลุ่ม หลังโควิดป่วนเศรษฐกิจกระทบความมั่นคงรายได้ ขณะ "ทีเอ็มบี" ชี้แนวโน้มหนี้เสียสินเชื่อบ้านยังพุ่งไม่หยุด คาดสิ้นปีเฉียด 5% ทะลุระดับ 1.1 แสนล้านบาท
• รมว.คลังไม่ห่วงปรับครม. ขอทำงานในหน้าที่ก่อน ยันงบ 4 แสนล้านบาท เน้นพื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ไม่เอื้อนายทุน ด้านรมว.พลังงาน ชูบล็อกเชน สวนปาล์ม ใช้พลังงานพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ขณะที่รมมว.พาณิชย์ ย้ำยังไม่มีสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีเรื่องปรับครม.
• การประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ(ศบค.ชุดเล็ก) ที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) จะมีการประชุมในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ เพื่อพิจารณา 12 กิจกรรม รวมทั้งหารือกับผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อนำผลพิจารณาเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มีนายกฯเป็นประธานต่อไป
• คณะทำงานซีพีทีพีพี ของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้รวบรวมผลการศึกษาผลกระทบต่อการเข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) เรียบร้อยแล้ว และจะเสนอให้ กกร. ประกาศจุดยืนว่าจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนให้รัฐบาลไทยเข้าร่วมเจรจาหรือไม่ในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นตัวแทนจากภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคมยังกังวลใน 4 ประเด็นใหญ่ที่ต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องสร้างความชัดเจนและชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้รับทราบข้อเท็จจริง
• สภาผู้ส่งออก ระบุสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงชะลอตัวอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจยังคงผันผวน และประสบปัญหากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ดังนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ สรท.กับคณะกรรมการ สรท. ได้เข้าหารือ กับคณะผู้บริหารธปท. ถึงสถานการณ์ส่งออกรายอุตสาหกรรม และ โลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เพื่อให้ ธปท. สามารถกำหนดนโยบายด้านการเงินเพื่อสนับสนุน ภาคการค้าระหว่างประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการกำหนดมาตรการเพื่อดูแลค่าเงินบาทมิให้แข็งค่าเกินกว่าพื้นฐานที่แท้จริงทางเศรษฐกิจ
• รมว.ท่องเที่ยวฯ จ่อชงครม.พรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) ปลดล็อกเที่ยวในประเทศ ระยะแรกเสนอเที่ยวภายในภูมิภาคก่อน จากนั้นเดือนก.ค. เปิดให้เที่ยวได้ทั้งประเทศ รองรับแผนกระตุ้นไทยเที่ยวไทย หวังสร้างรายได้ 4 แสนล้านบาท ช่วยท่องเที่ยวฝ่าวิกฤติ ขณะที่ไตรมาส 3 ปีนี้โรงแรมทยอยกลับมาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

• SAPPE (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 22 บาท ขณะที่มองหลัง Reopen คำสั่งซื้อเริ่มฟื้น ขณะที่บริษัทออกสินค้าเดิม ไซส์ลดลง ราคาต่ำลงเน้นลูกค้ากลุ่ม Mass เริ่มขาย B’LUE ในตลาดกัมพูชาและลาว และมีแผนออกสินค้าใหม่ในช่วงที่เหลือของปีทั้งแบรนด์ SAPPE และแบรนด์ร่วมกับ Danone ขณะที่ภาษีสรรพสามิตจะปรับลดลงตั้งแต่ไตรมาส 3/63 เพราะปรับสูตรเครื่องดื่มเสร็จแล้ว ทั้งนี้ ปรับกำไรปกติปี 63 ลง 7% เพราะไตรมาส 2/63 หนักกว่าคาด กำไรปีนี้ -14% คาดปีหน้า +31% ราคาหุ้น Laggard มาก +22% นับแต่ Lockdown เดือน มี.ค. เทียบกับกลุ่มเครื่องดื่มที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 45%
• TOP (เคจีไอฯ) ให้ราคาพื้นฐาน 68 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround จากไม่มีผลขาดทุนสต๊อกเช่นใน 1Q63 (อิงราคาน้ำมันปัจจุบัน) และค่าการกลั่นดีขึ้น QoQ ขณะที่ประเมินแนวรับ 50 บาท และ 48 บาท ส่วนแนวต้าน 52.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 55 บาท (Stop loss 45 บาท) โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อการต่อกลุ่มพลังงาน จากการต่ออายุมาตรการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส ส่งผลให้ราคาน้ำมันล่าสุดปรับขึ้นมายืนเหนือ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
• CK (คิงส์ฟอร์ด) แนะ"ทยอยซื้อสะสม" ให้ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท จากปัจจัยบวกที่ยังรออยู่หลัก ๆ คือการแบ่งงานในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน นอกจากนั้นงานประมูลของภาครัฐในโครงการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม, รถไฟฟ้าสายสีแดง, รถไฟฟ้าสายสีม่วง ก็เริ่มมีความคืบหน้าในมุมมองการผลักดันให้เกิดการขายซอง สำหรับประมาณการกำไรปี 63-64 ประเมินไว้ที่ระดับ 1.12 พันล้านบาท และ 1.98 พันล้านบาท สำหรับปีนี้กำไรชะลอตัวลง -36%YoY ตาม Backlog ในปัจจุบันที่เหลือน้อย ส่วนปีหน้ากำไรกลับมาขยายตัวโดดเด่น +76YoY