โบรกฯเชียร์"ซื้อ"BTS ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เตรียมเซ็น 2 งานใหญ่หนุนมูลค่าหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 8, 2020 14:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรเกอร์ต่างประสานเสียงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) คาดธุรกิจเดินรถ, สื่อโฆษณาผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/63 ของปีปฏิทิน และเชื่อไตรมาส 3-4 เริ่มฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และมีธุรกิจบริหารการเดินรถ, งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง รวมทั้งธุรกิจ KERRY ได้รับผลดีจากโควิด

นอกจากนี้ BTS ยังใกล้เซ็นสัญญางานโครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก และ โครงการงาน O&M มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่–กาญจนบุรี (M81) โดยมีกำหนดลงนามสัญญาในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้ ส่งผลให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 1 บาท/หุ้น

ขณะที่ BTS ยังมีแผนเข้าชิงงานโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท ที่เตรียมเปิดทีโออาร์ในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่ง BTS และกลุ่ม BSR มีโอกาสชนะงาน

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิปี 63/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) อาจอ่อนแอลงเพราะรับผลกระทบโควิด โดยคาดลดลงมาที่ 3,300-4,500 ล้านบาท แต่จะกลับมาเติบโตในปี 64/65 (เม.ย.64-มี.ค.65) คาดมีกำไรสุทธิ 3,550-5,700 ล้านบาท

พักเที่ยง ราคาหุ้น BTS อยู่ที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.83% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.81%

          โบรกเกอร์		  คำแนะนำ		ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ไทยพาณิชย์		    ซื้อ			   14.30
          เคจีไอฯ            Outperform		   13.50
          ทิสโก้		           ซื้อ		          13.00
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ	    ซื้อ			   12.80

นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ธุรกิจในปี 63/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) มีทั้งดีและไม่ดี โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ซึ่ง BTS ถือหุ้น 1 ใน 3 ซึ่งจำนวนผู้โดยสารลดลงในช่วงโควิด , บมจ.ยู ซิตี้ (U) ที่มีกิจการโรงแรมในยุโรปต้องหยุดให้บริการในช่วงโควิด และบมจ.วีจีไอ (VGI) ได้รับผลกระทบจากโควิดเช่นกัน

แต่ธุรกิจที่ยังเติบโตได้ดี ได้แก่ การบริหารเดินรถโดยรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือที่ได้เพิ่มการเดินรถ 4 สถานีถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และภายในปลายปีนี้จะวิ่งยาวถึงสถานีคูคต ซึ่งรายได้จากการบริหารการเดินรถไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด ขณะที่กิจการส่งพัสดุของ KERRY เติบโตสูงในช่วงเกิดโควิดระบาดมีการใช้บริการรับส่งพัสดุมาก และรายได้ก่อสร้างและจัดหารถ (E&M) ของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองก็เข้ามาต่อเนื่อง

นอกจากนี้ BTS จะมีโครงการขนาดใหญ่ทยอยเซ็นสัญญา ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) คาดจะลงนามราว 19 มิ.ย.นี้ และโครงการร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา(Operation and Maintenance: O&M)มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา(M6)และสายบางใหญ่–กาญจนบุรี(M81) คาดจะมีการลงนามในเดือน ก.ค.นี้

"ปีนี้มีทั้งธุรกิจดีและไม่ดี แต่ภาพรวมสถานการณ์โควิดดีขึ้นหลังมีผู้ติดเชื้อลดลง สถานการณ์ค่อย ๆ คลี่คลาย และภาพรวมการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ก็จะกลับมาจากพื้นฐานแข็งแกร่ง"นายสมบัติ กล่าว

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งน่าจะเป็นเมกะโปรเจ็คต์เดียวที่เตรียมออกเอกสารเชิญชวนประมูล (ทีโออาร์) ในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งคาดว่า BTS จะร่วมทุนกลุ่มเดิม BSR ที่มี BTS,บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) และบมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เพื่อเข้าร่วมประมูลครั้งนี้

ทั้งนี้ ยังคงแนะนำ"ซื้อ" BTS เป้าหมาย 12.80 บาท โดยประมาณการกำไรสุทธิในปี 63/64 จะลดลง 13% มาที่ 3,300 ล้านบาท และในปี 64/65 กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 8% มาที่ 3,550 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิในปี 62/63 จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 8,162 ล้านบาท โต 183% จากปีก่อนหน้า

ด้านนายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดว่าผลประกอบการของ BTS จะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ของปีปฏิทินนี้ (เม.ย.-มิ.ย.63) โดยจำนวนผู้โดยสารลดลงต่ำสุดในเดือน เม.ย.เช่นเดียวกับรายได้จาก VGI ที่รับผลกระทบโควิด ส่วนรายได้ธุรกิจอื่นทรงตัว ทั้งนี้ คาดว่าในไตรมาส 3-4 จะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น หากไม่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 ขณะที่การบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือเดินรถเพิ่ม 4 สถานี และ ในปลายปีนี้จะเปิดเดินรถทั้งเส้น ทำให้รายได้เพิ่มเข้ามา แม้ไม่ได้เป็นก้อนใหญ่ก็ตาม

ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามการเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เป็นความหวังกับกลุ่ม BTS ซึ่งหลายปีที่ผ่านมากลุ่ม BTS ชนะการประมูลงานได้มาก

นายปริญทร์ แนะนำ"ซื้อ" หุ้น BTS ให้เป้าหมาย 13.50 บาท โดยคาดว่าปี 63/64 จะมีกำไรปกติ 4.5 พันล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรก่อนรายการพิเศษ 4.7 พันล้านบาท เพราะรับผลกระทบโควิด แต่ในปี 64/65 คาดจะกลับมาเติบโตเป็น 5.7 พันล้านบาท

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ไทยพาณิชย์ คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BTS ให้ราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ที่ 14.3 บาท แม้ผลประกอบการอ่อนแอ แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ BTS เนื่องจาก ผลประกอบการที่อ่อนแอ หลักๆ เกิดจากผลการดำเนินงานของ U ซึ่งกำไรมีความผันผวนสูง และมีมูลค่าน้อยมากใน valuation ของ BTS (0.1 บาท/หุ้น ในราคาเป้าหมาย) ,ผลกระทบจากจำนวนผู้โดยสารลดลงมีจำกัด

ขณะที่ยังมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น BTS หลายอย่างรออยู่ข้างหน้า ได้แก่ การต่อสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว การเซ็นสัญญาโครงการมอเตอร์เวย์ 2 สาย และสนามบินอู่ตะเภา โดยคาดว่า 2 โครงการจะเซ็นสัญญาในเดือน มิ.ย. คาดว่าจะช่วยหนุนให้มูลค่าของ BTS ปรับขึ้นได้อีกประมาณ 1 บาท/หุ้น นอกจากนี้ BTS ยังประกาศจ่ายเงินปันผล 0.15 บาท/หุ้น ด้วย ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 ก.ค.

ส่วนการประกาศเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปของ BTS โดยจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,100 ล้านหุ้นนั้น เห็นว่านักลงทุนว่าไม่ควรตื่นตกใจเกี่ยวกับข่าวนี้มากเกินไป เนื่องจากไม่ได้หมายความว่า BTS จะต้องเพิ่มทุนแน่นอน เพียงแต่เป็นการขออนุมัติจำนวนหุ้นและประเภทการจัดสรรจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้ล่วงหน้า โดยเชื่อว่าเหตุผลที่ BTS ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนแบบมอบอำนาจทั่วไปเพื่อให้มีทางเลือกในการระดมทุน ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมา BTS ก็ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ