นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไพลอน (PYLON) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมทบทวนเป้าหมายรายได้ปีนี้หลังสิ้นสุดไตรมาส 2/63 จากเดิมที่คาดรายได้จะเติบโตราว 15% เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กระทบการทำงาน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/63 คาดว่าผลดำเนินงานจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 ที่รายได้ถือว่าเติบโตอย่างโดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 732.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/63 งานโครงการของภาครัฐหลายโครงการชะลอการเปิดประมูลออกไป และภาคเอกชนยังชะลอการลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการประเภทคอนโดมิเนียม
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่างานภาครัฐฯ น่าจะสามารถทยอยออกมาประมูลในช่วงไตรมาส 4/63 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทมองโอกาสเข้าไปรับงานในโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน มูลค่าการลงทุน 1.79 แสนล้านบาท, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท , โครงการทางด่วนพระราม 3 (ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก) มูลค่ารวม 3.1 หมื่นล้านบาท รวมถึงโครงการสนามบินอู่ตะเภา และการขยายรถไฟฟ้าสายสีส้ม, สีม่วง, สีแดง ในปี 64
ขณะที่งานภาคเอกชนคาดว่าจะเห็นการลงทุนกลับมาอีกครั้งในช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไป
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 750 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ได้ทั้งหมด และน่าจะรับรู้เข้าในช่วงไตรมาส 2/63 และไตรมาส 3/63 เป็นส่วนใหญ่
"ภาวะตลาดในระยะสั้นเรามองว่ายังสะดุดอยู่ แต่ในระยะยาว 6 เดือนจากนี้ เราไม่ค่อยเป็นห่วงมากนัก เพราะเราได้ทำงานใหญ่เสร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าในไตรมาส 4/63 ภาครัฐจะมีการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ มูลค่ารวมกันก็มหาศาล ทำให้เราน่าจะมีโอกาสเข้าไปรับงานเข้ามา"นายชเนศวร์ กล่าว