ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ใกล้เคียงเดิมราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปีนี้มากกว่า 70% ของมูลค่างานทั้งหมด ขณะเดียวกัน บริษัทจะยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น บริษัทยังคงแผนการลงทุนปีนี้ตามงบลงทุนรวม 31 ล้านบาท แบ่งเป็น ซื้อเครื่องจักรรองรับการผลิตท่อส่งลมชนิดแผ่นโฟม 10 ล้านบาท คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในวันที่ 30 มิ.ย.63, โครงการสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ 15 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในวันที่ 30 มิ.ย. 63 และซื้อเครื่องจักรผลิตท่องานก่อสร้างเพื่อการส่งออก 6 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จวันที่ 30 ส.ค. 63 "ในปีนี้แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้งานต่างๆ ชะลอตัวออกไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามเราก็เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีและไม่ลงไปแข่งขันด้านราคา เพื่อที่จะยังคงรักษาอัตราการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดี"นายธานินทร์ กล่าว