ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,418.77 จุด เพิ่มขึ้น 10.40 จุด (+0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 77,422.25 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,423.36 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,402.46 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 707 หลักทรัพย์ ลดลง 637 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 379 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงของการสร้างฐาน โดยมีความผันผวนในกรอบในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนนี้ ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้ปรับขึ้นมาจากที่ลงลึกไปถึง 969 จุด ขึ้นมาถึงกว่า 1,400 จุด การปรับฐานบ้างจึงเป็นเรื่องปกติ และ Valuation ตลาดก็ตึงๆ ด้วย แต่ถ้ามีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนตลาดก็เชื่อว่ายังสามารถไปได้อีก
ด้านกลุ่มพลังงานก็ย่อตัวตามราคาน้ำมัน แต่เชื่อว่าราคาจะไม่หลุด 35 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.3% แต่ตลาดในกลุ่ม TIP จะเผชิญแรงขายจากปัจจัยเฉพาะตัว ยกเว้นตลาดหุ้นไทยที่ยังบวกได้ตามตลาดเอเชียแห่งอื่นๆ แต่ตลาดบ้านเราลดช่วงบวกลงบ้างตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่พลิกมาเคลื่อนไหวในแดนลบ จากช่วงเช้าที่ยังบวกได้ ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวก
ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศยังมีโมเมนตัมเป็นบวกจากความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว, การคลายล็อกเคอร์ฟิว ซึ่งอาจจะเป็น Sentiment หนุนตลาดฯได้บ้างในระยะถัดไป
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่ พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
MINT มูลค่าการซื้อขาย 7,071.27 ล้านบาท ปิดที่ 22.90 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 3,937.77 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,944.14 ล้านบาท ปิดที่ 89.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,841.16 ล้านบาท ปิดที่ 24.80 บาท ลดลง 0.20 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,681.87 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท