นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารปรับโฉม Bangkok Bank Mobile Banking เวอร์ชั่นใหม่ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานของลูกค้า สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New Normal และโลกแห่ง Mobile First ที่ชัดเจนขึ้น ตั้งเป้าผู้ใช้งานเติบโตแตะ 11 ล้านรายในสิ้นปีนี้
สำหรับดีไซน์ใหม่ทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มกราฟแสดงความเปลี่ยนแปลงในหน้าการลงทุนให้เห็นชัดเจนและเข้าใจง่าย
- เข้าถึงฟังก์ชันที่ต้องการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ผ่านเมนูลัดในหน้าแรก
- โอนเงินสะดวก ลดความผิดพลาด ด้วย Copy & Paste เลขบัญชี ไม่ต้องจำ ไม่ต้องจด รวมถึงเรียกดูเลขบัญชีครบทุกหลักได้ในคลิกเดียว
- จัดการทุกอย่างได้ง่ายในแอปฯ ไม่ว่าจะเพิ่ม-ลบ-จัดระเบียบบัญชีปลายทาง เรียกดูรายการย้อนหลังเป็นรายเดือน ทั้งยังรวมรายการที่ใช้งานบ่อยไว้ด้วยกัน
- จ่ายบิลง่าย สแกนได้ตั้งแต่หน้าแรก สามารถชำระเงินได้รวดเร็วใน 5 วินาที หรือกดแค่ 2 คลิกเท่านั้น หากจะค้นหารายการผู้รับชำระก็ง่าย ด้วยระบบการจัดหมวดหมู่ใหม่ พร้อมรายการบิลยอดนิยม รวมถึงโชว์ภาพโลโก้ที่ช่วยให้ค้นหาง่ายขึ้น
- อุ่นใจได้เรื่องความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล พร้อมระบบป้องกันกรณีอุปกรณ์ที่มีระบบปฏิบัติการ (Operating System) ที่ล้าสมัย รวมถึงอุปกรณ์ที่ถูกดัดแปลง (Rooted หรือ Jailbroken) จะไม่สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับข้อมูลของลูกค้า
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ใช้งาน Bualuang mBanking เริ่มอัพเดทแอปพลิเคชันเวอร์ชันใหม่ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ และจะสามารถอัพเดทได้ครบทุกคน ภายใน 2 สัปดาห์ โดยแอปพลิเคชันสามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ iOS Version 9.0 ขึ้นไป สำหรับระบบปฏิบัติการ Android แอปพลิชันสามารถใช้ได้ร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android Version 5.0 ขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดี ควรใช้งานแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ที่มีระบบปฏิบัติการ Android Version 7.0 ขึ้นไป และเมื่ออัพเดทแล้ว สามารถเข้าใช้งานด้วยรหัส PIN 6 หลักเช่นเดิม ไม่จำเป็นต้องทำการลงทะเบียนใหม่ ส่วนลูกค้าใหม่ สามารถดาวน์โหลดและเข้าใช้งานครั้งแรกด้วยหมายเลขบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ
"การปรับปรุงและเพิ่มเติมฟีเจอร์ต่างๆ ใน Bangkok Bank Mobile Banking เวอร์ชั่นใหม่นี้ ธนาคารมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวก และสร้างความพึงพอใจ รวมทั้งมอบประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งาน และทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking ตอกย้ำความเป็นตัวจริงของธนาคารในฐานะ ผู้ให้บริการด้านโมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking Provider) ที่สามารถตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงินผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งกลายเป็นความต้องการและเป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้อย่างรอบด้าน"
นางปรัศนี กล่าวว่า Bangkok Bank Mobile Banking เวอร์ชั่นใหม่ จะสอดรับกับวิถีการดำรงชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปของโลกยุคหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ New Normal ซึ่งเป็นสังคมที่ผู้คนมีความคุ้นชินกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันผ่านระบบออนไลน์ และเริ่มมีพฤติกรรม Mobile First อย่างชัดเจน โดยพฤติกรรมนี้ได้ขยายวงกว้างขึ้นตามความสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ ขณะเดียวกันโมบายแบงก์กิ้งจะกลายเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกรรมและเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธนาคารตลอดจนกลุ่มพันธมิตรของธนาคาร
"ข้อมูลช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมลูกค้าอย่างชัดเจน โดยตัวเลขผู้ใช้งาน Mobile Banking ของธนาคารกรุงเทพเติบโตขึ้นประมาณ 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันปริมาณธุรกรรมการโอนเงินและการจ่ายบิลผ่าน Mobile Banking ก็เติบโตขึ้นถึง 51% และ 47% ตามลำดับ ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าเริ่มคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking มากขึ้น รวมถึงยังมีปัจจัยสถานการณ์เรื่องโรคโควิด-19 มาเป็นตัวเร่ง เช่น ความกังวลเรื่องการใช้เงินสด การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และชำระเงินผ่าน Mobile Banking แทน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางได้สะดวก ตลอดจนมาตรการเยียวยา 5,000 บาทของภาครัฐ ที่ลูกค้าจำนวนมากลงทะเบียนสมัครใช้บัญชีธนาคารกรุงเทพเป็นบัญชีพร้อมเพย์เพื่อใช้รับเงินดังกล่าว"
นางปรัศนี กล่าวอีกว่า ธนาคารกรุงเทพยังวางกลยุทธ์สำคัญในปีนี้ โดยเฉพาะแผนการลงทุนด้านไอทีและระบบงานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านดิจิทัล มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านระบบชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Payment Solution) ที่ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายรูปแบบตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทั้งในฝั่งผู้รับชำระเงิน และผู้จ่ายเงิน รวมถึงการเปิดตัวโมบายแบงก์กิ้งเวอร์ชั่นใหม่ครั้งนี้ เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น การเปิดบัญชีผ่านออนไลน์โดยยืนยันตัวตนผ่านระบบ National Digital ID Platform ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างทดสอบใน Regulatory Sandbox ของ ธปท. แล้ว โดยทั้งหมดนี้มีหน่วยงานไอทีดูแลเรื่องระบบการทำธุรกรรมการเงินโดยเฉพาะ พร้อมมีแผนเชิงปฏิบัติและทำการทดสอบระบบ เพื่อให้การทำธุรกรรมไม่สะดุด โดยเชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านรายได้ตามเป้าหมาย จากปัจจุบันอยู่ที่ 8.6 ล้านราย