นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้งวดปี 62/63 (เดือน ก.ค.62 สิ้นสุดเดือนมิ.ย.63) น่าจะปรับตัวลดลง 5-6% เมื่อเทียบกับงวดปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของไตรมาส 4 งวดปี 62/63 (เดือน เม.ย.-มิ.ย.63) ที่ต้องมีการปิดสาขาตามมาตรการของภาครัฐ ทำให้ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.63 ไม่มียอดขายผ่านหน้าร้านเข้ามาเลย ส่วนในเดือนมิ.ย.63 หลังจากภาครัฐผ่อนปรนให้ศูนย์การค้ากลับมาเปิดได้ก็คาดว่ายอดขายผ่านหน้าร้านก็น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น
กลยุทธ์การดำเนินงานไตรมาส 4 งวดปี 62/63 บริษัทจะกลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งหลังจากคลายล็อกดาวน์เฟส 2 แล้ว MC กลับมาเปิดสาขาได้ 60 สาขา จากทั้งหมด 600 สาขา ควบคู่ไปกับการขายสินค้าผ่านออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนยอดขายออนไลน์เติบโตขึ้นมาเป็น 15% ในงวดปีนี้และต่อเนื่องไปงวดปีหน้า (ก.ค.63-มิ.ย.64) จากปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 15% แล้ว ขณะทีก่อนหน้านี้อยู่ที่ 8%
รวมถึงการควบคุมต้นทุนต่างๆ จากปัจจุบันค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขายและบริหาร (SG&A) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 42% แล้ว จากเดิมอยู่ที่ 44% และบริษัทจะพยายามรักษาการควบคุม SG&A ให้อยู่ในระดับราว 40% ในปีถัดๆ ไปอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีแผนจะปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรลง 20-30 สาขาเพื่อลดต้นทุนลงอีกด้วย
นางชนัญญารักษ์ คาดว่าจากการดำเนินการดังกล่าวก็น่าจะส่งผลทำให้รายได้ทั้งปีลดลงไปไม่มาก และมั่นใจว่าจะมีกำไรสุทธิอย่างแน่นอน เนื่องจากในไตรมาส 3 งวดปี 62/63 (ต.ค.-ธ.ค.62) บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 368.76 ล้านบาท สูงกว่างวดปี 61/62 (ก.ค.61-มิ.ย.62) ที่มีกำไร 305.80 ล้านบาท
"เรายังกลับมาทำงานได้ดีในช่วงที่มีวิกฤติแบบนี้ ทั้งการปรับตัวขายผ่านออนไลน์ การนำสินค้าใหม่ๆ ออกมาจำหน่าย และการควบคุมต้นทุนต่างๆ ทำให้มองว่าปีนี้ แม้รายได้จะปรับตัวลดลงแต่ยังมีการเติบโตได้ดีกว่าตลาด"นางชนัญญารักษ์ กล่าว
สำหรับงบลงทุนในงวดปีนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 70-80 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การลงทุนบางโครงการต้องชะลอออกไป แต่จะเน้นการลงทุนหลัก คือ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทในด้าน E-commerce และ การปรับปรุงสาขา เป็นต้น