โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO) มองผลดำเนินงานไตรมาส 2/63 แข็งแกร่ง จากอัตรากำไรเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันถั่วเหลืองและปริมาณขายอยู่ในเกณฑ์ดี และด้วยอุปสงค์จากการทำปศุสัตว์เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคากากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน อีกทั้งได้ประโยชน์จากบาทแข็งค่าข่วยให้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าถูกลง รวมถึงยังเป็นหุ้นที่มีจุดเด่นในเรื่องอัตราผลตอบแทนจากปันผลที่ดี 6-7% ต่อปี
แม้ TVO จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ไม่ได้แย่มาก เพราะรัฐบาลประกาศให้ B10 ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) ในสัดส่วน 10% เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานแทน B7 ตั้งแต่ต้นปีนี้ ช่วยลดผลผลิตน้ำมันปาล์มในตลาด ผลักดันให้ราคาน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปียังดีต่อเนื่อง จากปริมาณขายน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดที่ยังทรงตัวสูงต่อเนื่อง และราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้น ด้านราคาขายกากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้จากการเลี้ยงสัตว์ที่สดใสและการเร่งนำเข้าจากจีน
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 ไว้ที่ 1,700-1,775 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 1,411 ล้าบาท
พักเที่ยงราคาหุ้น TVO อยู่ที่ 27.25 บาท ลดลง 0.50 บาท (-1.80%) ขณะที่ SET -1.99%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
บัวหลวง ซื้อ 31.00
ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 30.75
ทิสโก้ ซื้อ 30.50
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 30.00
คันทรี่ กรุ๊ป ซื้อ 30.00
น.ส.นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์อาวุโส บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า TVO เป็นหุ้นที่มีจุดเด่นในเรื่องการให้อัตราผลตอบแทนจากปันผลที่ดี 6-7% ต่อปี ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 จะยังออกมาดี จากธุรกิจน้ำมันถั่วเหลืองที่ยังดีอยู่ทั้งในส่วนราคาขาย และปริมาณขาย อีกทั้งยังได้รับผลดีจากเงินบาทแข็งค่าด้วย เพราะ TVO ก็มีการนำเข้าถั่วเหลือง
อย่างไรก็ตามระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นแต่การที่รัฐบาลสนับสนุนให้ใช้ B10 แทน B7 ก็ช่วยลดผลผลิตน้ำมันปาล์มลงและทำให้เป็นผลบวกต่อราคาน้ำมันถั่วเหลือง และแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปียังดีต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 ไว้ที่ 1,775 ล้านบาท เติบโต 26% จากปีที่แล้ว
ทั้งนี้ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ฯคาดราคากากถั่วเหลืองในไตรมาส 2/63 ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นสัญญานที่ดีหลังจากปรับตัวลดลงเมื่อเทียบรายไตรมาส ติดต่อกัน 5 ไตรมาส สำหรับธุรกิจน้ำมันถั่วเหลืองคาดจะยังปรับตัวขึ้นได้ทั้งราคาขายและปริมาณขายในไตรมาส 2/63 โดยรวมมองว่าจากราคาขาย/ปริมาณขายน้ำมันถั่วเหลือง รวมถึงปริมาณขาย/ต้นทุนถั่วเหลืองที่ลดลงของกากถั่วเหลือง จะหนุนอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/63 พร้อมประเมินกำไรหลักในไตรมาส 2/63 ที่ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 8% จากไตรมาสก่อน โดยปรับประมาณการกำไรปี 63 ขึ้น 7% และปรับราคาเป้าหมายขึ้น 8% มาที่ 31 บาท
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า TVO ได้ประโยชน์จากบาทแข็งค่าเพราะต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าถูกลง หนุนกำไรในครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 ดีต่อเนื่องทั้งปริมาณขายน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดที่ยังทรงตัวสูงต่อเนื่อง และราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้น ด้านราคาขายกากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ที่มีมากขึ้นจากการเลี้ยงสัตว์ที่สดใสและการเร่งนำเข้าจากจีน ราคาถั่วเหลืองในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อจากการฟื้นตัวของความต้องการใช้จากจีน ขณะที่สต็อกถั่วเหลืองโลกปีนี้ลดลงเป็นปีที่ 2 โดยคาดกำไรสุทธิของ TVO ในปี 63 เติบโต 22% เป็น 1,700 ล้านบาท
สำหรับ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯมีมุมมองในเชิงบวกต่อการดำเนินงานของ TVO ในไตรมาส 2/63 โดยคาดว่าผลประกอบการจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มองราคาของถั่วเหลืองได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/63 จากอุปสงค์จากจีนที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตที่ลดลงจากอาร์เจนตินา และบราซิล
TVO จะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดจากผู้นำเข้ารายอื่น ๆ ได้ เนื่องจากภาษีการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และภัยแล้งในอาร์เจนตินาในปี 63 ที่ทำให้แม่น้ำ Parana มีระดับน้ำลดลง และด้วยอุปสงค์จากการทำปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคากากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายไตรมาส ในช่วงไตรมาส 2/63 แต่รายได้จากน้ำมันถั่วเหลืองลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากความต้องการ B10 ลดลงจากช่วงไตรมาสแรก