นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI) คาดว่า รายได้ในปี 63 น่าจะยังใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายไเด้ 3,095 ล้านบาท แม้ว่าปริมาณการขายก๊าซ LPG จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง โดยการเติบโตหลักๆ ในปีนี้จะมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของ CAZ รวมทั้งบริษัทจะรับรู้กำไรพิเศษจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินไปให้กับบริษัทร่วมทุนในช่วงสิ้นปีเข้ามาด้วย
"ในปีนี้จะมีทั้งธุรกิจที่เป็นบวก และเป็นลบ เช่น LPG ที่ขายให้กับปั๊ม และมีสต็อกติดลบยังไงก็เป็นลบอยู่แล้ว แต่ความเชื่อมั่นยังมีในด้านก่อสร้าง เนื่องจากปีนี้เรายังมีงานเข้าประมูลที่ค่อนข้างมากอยู่ และธุรกิจทดสอบความปลอดภัยก็จะดีไปตามก่อสร้าง"นางสาวนิตา กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่โอนกรรมสิทธิที่ดินให้กับบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท เอ็กซ์แซคท์ เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่ง TAKUNI ถือหุ้น 40% และบริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 60% คาดว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการแนวราบเพื่อเปิดขายในปีหน้า
นางสาวนิตา กล่าวว่า ปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ให้กับสถานีบริการในไตรมาส 2/63 คาดว่าจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 1/63 ที่มีปริมาณการขาย 4,864 ตัน เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลทำให้ความต้องการใช้ LPG ลดลง และมีผลขาดทุนจากสต็อกหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทพยายามเน้นเพิ่มยอดขายจากลูกค้าในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยกับปริมาณขายให้กับปั๊มก๊าซที่ลดลงไปมากได้
ขณะที่ธุรกิจก่อสร้างภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อย บมจ.ซี เอ แซด (ประเทศไทย) (CAZ) ในช่วงที่ผ่านมาก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ลูกค้าหลักในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil&Gas ชะลอการลงทุนและเซ็นสัญญางานที่ได้รับมาแล้วออกไปก่อน ส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้ช้าลง ซึ่งทาง CAZ ได้หันไปรับงานอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่ม Oil&Gas เข้ามาแทน
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ในธุรกิจการจำหน่าย LPG บริษัทพยายามลดปริมาณสต็อกให้เหลือน้อยที่สุด หรือแค่ให้เท่ากับการสำรองตามกฎหมายเท่านั้น และรับจากลูกค้าหลัก อย่าง PTT, SGP, เวิลด์แก๊ส เป็นต้น และจัดส่งภายในวันนั้นหรือวันถัดไป เพื่อไม่ให้มีผลขาดทุนจากการสต็อก LPG
ด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทาง CAZ ก็ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานต่อเนื่อง, ธุรกิจขนส่งทางบก น่าจะแย่ไปตามธุรกิจก๊าซ LPG gนื่องจากรถขนส่งส่วนใหญ่จะรองรับการขนส่งก๊าซ LPG แต่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็ได้เข้าไปรับงานกับลูกค้ารายใหม่อย่าง บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เพื่อส่งออกก๊าซไปยังประเทศลาว คาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังมากขึ้น, ธุรกิจทดสอบความปลอดภัย ก็จะเน้นลูกค้าในพื้นที่ EEC มากขึ้น ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 64