ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,382.56 จุด ลดลง 14.21 จุด (-1.02%) มูลค่าการซื้อขาย 85,786.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,386.22 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,353.51 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 450 หลักทรัพย์ ลดลง 1,017 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 272 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงเช้าปรับตัวลงลึกจากแรงขายทำกำไรหลังขึ้นไปมากแล้ว แต่ช่วงบ่ายลดช่วงลบจากแรงซื้อกลับหลังลงไปแถว 1,350 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ยังสามารถรับได้ โดยตลาดรีบาวด์ตามตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ฟื้นตัวราว 1% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกกว่า 500 จุด ส่วนตลาดในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ยังติดลบ จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นมา 30-40% จากช่วงก่อนหน้านี้ ดังนั้น การเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่มาก ขณะที่ตลาดตราสารหนี้สามารถรองรับเม็ดเงินได้จำกัด และส่วนหนึ่งไหลเข้าไปที่ทองคำ แต่สุดท้ายก็คงจะไหลเข้ามาที่ตลาดหุ้นด้วย
สัปดาห์หน้าให้ติดตามการประกาศหุ้นเข้า/ออกใน SET50 และ SET100 รวมถึงการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 2/63 อาจทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาบ้าง แต่ที่ผ่านมาตลาดฯขึ้นมามากแล้ว จึงอาจไม่มี Window Dressing ก็ได้ นอกจากนี้ให้ติดตามการ Preview ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/63 เริ่มจากกลุ่มแบงก์
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้กรอบ 1,350-1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SUPER มูลค่าการซื้อขาย 5,470.15 ล้านบาท ปิดที่ 1.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 4,033.17 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,496.68 ล้านบาท ปิดที่ 37.25 บาท ลดลง 1.25 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 3,162.68 ล้านบาท ปิดที่ 22.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,811.03 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 0.25 บาท