NER พุ่ง 7.52% เทรดคึกคัก เล็งกำไร Q2/63 ดีต่อเนื่อง H2 จากลูกค้าจีนหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 15, 2020 10:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น NER ราคาพุ่งขึ้น 7.52% มาอยู่ที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 284.89 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.14 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.86 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.92 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.82 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"เก็งกำไร"หุ้นบมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) หุ้นกลุ่มยางพารามีปัจจัยบวก หลังนายกรัฐมนตรีลงนามใช้ยางพาราทำวัสดุบนถนนระหว่างปี 2563-2565 มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ช่วยหนุนราคายางให้ฟื้นตัวจาก Supply ที่ลดลง ส่งผลบวกต่อ NER ซึ่งทำธุรกิจ Trading ยางพาราที่ใช้กลยุทธ์ Cost Plus Pricing

แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/63 คาดเติบโตสูง QoQ และช่วงครึ่งปีหลัง จะเด่นยิ่งขึ้นจากการรับรู้รายได้ของลูกค้าใหม่คือ LLIT และ Triangle ผู้ผลิตยางรายใหญ่จากจีน

พร้อมประเมินเบื้องต้นกำไรปี 2563 ที่ 600 ล้านบาท และปี 2564 ที่ 750 ล้านบาท ราคา ณ ปัจจุบันเทียบเท่า PER2563 และ 2564 ที่ 8.2 เท่า และ 6.6 เท่าตามลำดับ (Fully Diluted ทั้งจำนวน NER-W1)

ทั้งนี้ NER เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน (Ribbed Smoked Sheet : RSS) ยางแท่ง (Standard Thai Rubber : STR) และ ยางผสม (Mixtures Rubber) เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งบริษัทได้รับอนุญาตเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางพาราไปยังนอก ราชอาณาจีกร

ปี 2563 มีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้น 59% หรือ 172,800 ตัน/ปี เป็น 465,600 ตันต่อปี เสร็จแล้ว 70% และจะเสร็จทั้งหมดใน Q4/63 โดยกำลังการผลิตใหม่เป็นสินค้ายางอัดแท่ง และยางอัดแท่งผสม ทั้งนี้เพื่อรองรับลูกค้าใหม่ 2 รายดังกล่าว โดย

1) Triangle มีสัญญาสั่งซื้อระหว่าง มิ.ย.63 -พ.ค.64 ที่ 24,000 ตัน

2) LLIT มีสัญญาสั่งซื้อช่วงก.ค.63-มิ.ย.64 ที่ 48,000 ตัน

รวมลูกค้าใหม่เพียง 2 รายนี้มีปริมาณถึง 72,000 ตัน กินสัดส่วนถึง 42% ของกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่งเพิ่มขึ้นมา และมีอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างเจรจา บริษัทคาดว่ากำลังการผลิตใหม่จะเต็มกำลังการผลิตที่ 80% ขึ้นไปได้ภายในปี 2564


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ