TSR คาด Q2/63 โตต่อเนื่องรับผลดีคนอยู่บ้าน-ออนไลน์เด่น,เล็งเปิดตัวเครื่องทำน้ำแข็ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 16, 2020 14:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/63 รับปัจจัยบวกประชาชนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ (health concern) มากขึ้นทั้งการกินอาหารและการดื่ม ทำให้เครื่องกรองน้ำเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างมากในช่วงนี้ ทั้งช่องทางการขายสินค้าตามบ้าน และการขายผ่านออนไลน์ที่เติบโตทำสถิติสูงสุดในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา

"ในช่วงล็อกดาวน์จากโควิด-19 ที่ผ่านมา ผลกระทบจากภัยโควิดไม่ค่อยส่งผลถึง TSR เท่าไหร่ ด้วยความที่เราเป็นหน่วยขาย Direct Sales ซึ่งมีทีมขายเครื่องกรองน้ำ Safe ไปถึงบ้านลูกค้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่อนสบายเราก็ไม่มีหน้าร้าน เราก็ขายออนไลน์ 100% ทำให้ยิ่งอยู่บ้านเยอะทำให้ 2 เดือนที่ผ่านมาการขายออนไลน์เราทำนิวไฮมา 2 เดือนแล้วทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องกรองน้ำ"นายเอกรัตน์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทจะเพิ่มทีมขายอีกอย่างน้อย 30 ทีม จากปัจจุบันอยู่ที่ 252 ทีม และเพิ่มสาขาในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 8 สาขา โดยเฉพาะในภาคกลางและภูมิภาคเพื่อเพิ่มยอดขาย, เพิ่มสินค้าใหม่ที่มีราคาถูกลง หรือผ่อนต่อเดือนราว 700-1,000 บาท ได้แก่ เครื่องกรองน้ำ Safe Ro2 และเครื่องกรองน้ำแบรนด์ Sure bright เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าฐานกว้างขึ้น

นอกจากนั้น บริษัทร่วมทุน คือ บริษัท อัลไพน์ วอเตอร์ จำกัด ที่ TSR ถือหุ้นในสัดส่วน 55% ส่วนที่เหลือเป็นพันมิตรนั้น ก็เตรียมนำชุดเครื่องทำน้ำแข็งมาจำหน่ายและให้เช่าในปลายเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเครื่องดังกล่าวมีองค์ประกอบเป็นส่วนผลิตน้ำแข็งและกรองน้ำ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการผลิตน้ำแข็งที่มีความสะอาด ประหยัดเวลา รวมถึงมีบริการหลักการขายที่ดี และราคาเหมาะสม โดยจะมีบริษัทย่อย TSRL เป็นผู้สนับสนุนในการปล่อยสินเชื่อหรือระบบเช่า กลุ่มเป้าหมายลูกค้าหลัก คือ ร้านอาหาร, โรงแรม, Cafe and Catering, Convenience store, สำนักงาน หรือ ครัวเรือนเป็นต้น

นายเอกรัตน์ กล่าวว่า จากแผนการดำนินงานดังกล่าวทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปี 63 จะเติบโตไปตามเป้าหมาย 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,676.78 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/63 ทำรายได้แล้ว 450.30 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการบริหารบัญชีลูกหนี้ที่ดีขึ้น หลังปรับรูปแบบการติดตามบัญชีลูกหนี้ใหม่ ส่งผลทำให้บัญชีเช่าซื้อในไตรมาส 1/63 ลดลงเหลือ 4.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4.59% ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่ให้เกินระดับ 5% จากเดือน พ.ค.63 อยู่ที่ 4.68% โดยการติดตามลูกหนี้ให้ชำระเงินตรงตามเวลามากขึ้น ส่งผลให้มีอัตราการเรียกเก็บเงินสูงกว่า 80% ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ไม่เคยค้างชำระเลย สูงขึ้นจากเดิมที่อยู่ที่ 70-72%

ส่วนช่วงสถานการณ์โควิด-19 บริษัทก็ให้ความช่วยเหลือลูกค้าเป็นอย่างดี โดยไม่มีปรับเบี้ย หรือยึดคืนสินค้า และยังมีนโยบายผ่อนปรนให้ชำระหนี้ 50% รวมถึงขยายการชำระไป 1-2 เดือน เป็นต้น ขณะที่การเก็บเงินในเดือน เม.ย.63 ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยที่ 9% หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การเก็บเงินที่ 81.2% และเริ่มกลับขึ้นมาที่ 90.9% ในช่วงเดือน พ.ค.63


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ