โบรกฯเชียร์"ซื้อ"PLANB เล็งผลงานเริ่มฟื้นใน H2/63-โตเด่นปี 64 หลังคลายล็อคดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 16, 2020 15:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) เล็งผลดำเนินงานเริ่มฟื้นตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง (H2/63) หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และผู้ประกอบการเริ่มกลับมาใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้งานกิจกรรมต่าง ๆ ที่เลื่อนมาจากช่วงครึ่งปีแรก

แนวโน้มปี 64 คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วง 785-857 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่คาดว่าจะมีกำไร 419-512 ล้านบาท โดยกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีหน้าจะมาจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากจอโฆษณาดิจิตอลในร้าน 7-Eleven 1,000 สาขา ซึ่งจะติดตั้งครบภายในสิ้นปีนี้, รายได้จากการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว ที่เลื่อนไปเป็นปีหน้า และอัตราการใช้ป้ายโฆษณาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.08 น.หุ้น PLANB อยู่ที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+2.70%)

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เคจีไอ(ประเทศไทย)             ซื้อ                          7.80
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)    ซื้อ                          7.30
          ฟินันเซีย ไซรัส                  ซื้อ                          7.10
          เคทีบี (ประเทศไทย)             ซื้อ                          7.00
          หยวนต้า (ประเทศไทย)           ซื้อเก็งกำไร                   7.00

นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านสินค้าอุปโภคบริโภคที่เคลื่อนไหวเร็ว (FMCG) เริ่มกลับมาใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้จากงานกิจกรรมต่างๆที่เลื่อนมาจากช่วงครึ่งปีแรก อาทิ Thailand Premier League , BNK48’s Handshake event เป็นต้น

ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากป้ายรถโดยสารประจำทางอัจริยะ และป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ (Smart Bus Shelter) และ 7-Eleven (ทยอยติดตั้ง 1,000 สาขา) ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรสุทธิในปี 63 จะอยู่ที่ 419 ล้านบาท หรือลดลง 44% เมื่อเทียบกับปี 62 แต่อย่างไรก็ตามจะกลับมาเติบโตก้าวกระโดดที่ 849 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 107% จากปี 63 โดยเป็นผลมาจากการใช้เม็ดเงินในการโฆษณาที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงการรับรู้รายได้จาก 7-Eleven (1,000 สาขา) และ Smart Bus Shelter เข้ามาเต็มปี

ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น PLANB ปรับตัวลดลง 21% ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรก สะท้อนผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปพอสมควรแล้ว จึงมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันน่าสนใจเมื่อคาดว่าปี 64 ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ ให้เหตุผลแนะนำ"ซื้อ"หุ้น PLANB เพราะคาดจะได้แรงหนุนจากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งในปี 64 โดยแนวโน้มกำไรของบริษัทจะกลับมาเติบโตอีกครั้งที่ 857 ล้านบาท (+104% YoY) จากฐานต่ำเพียงแค่ 421 ล้านบาท (-43% YoY) ในปี 63 โดยกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีหน้าจะมาจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากจอโฆษณาดิจิตอลในร้าน 7-Eleven 1,000 สาขา ซึ่งจะติดตั้งครบภายในสิ้นปี 63, รายได้จากการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว ที่ถูกเลื่อนไปเป็นช่วงวันที่ 23 ก.ค.-8 ส.ค.64 และอัตราการใช้ป้ายโฆษณาที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กำไรสุทธิในปี 63 จะถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ประกอบกับมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบค่อนข้างมากในธุรกิจโฆษณา ซึ่งรวมไปถึงป้ายโฆษณาของ PLANB ด้วย สำหรับทิศทางผลประกอบการในไตรมาส 2/63 คาดว่าจะต่ำสุดของปีนี้

สำหรับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า แม้คาดว่าผลประกอบการในปีนี้จะปรับลดลง จากผลกระทบ โควิด-19 แต่มองว่าตลาดรับรู้ไปแล้ว และคาดว่าเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ PLANB เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์มากสุดจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโฆษณา ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่สูงสุดในอุตสาหกรรมสื่อป้ายโฆษณา โดยประเมินกำไรปี 64 จะกลับมาเติบโต 53%YoY เป็น 785 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2/63 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของปี ด้วยกิจกรรมทางการตลาดเกือบทั้งหมดถูกยกเลิก และลูกค้ามีการยกเลิกโฆษณา หรือลดงบโฆษณาลงจากเดิม รวมถึงงานโอลิมปิค ซึ่งบริษัทได้สิทธิในการบริหารสื่อโฆษณาจากเดิมจะจัดในวันที่ 24 ก.ค.63 ถูกเลื่อนออกไปหนึ่งปี ทำให้รายได้จากการขายโฆษณาซึ่งเดิมจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาถูกเลื่อนออกไปด้วย

สถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/63) คาดว่าจะเริ่มดีขึ้น หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นในอัตราลดลง และรัฐบาลได้คลายล็อกดาวน์เฟส 4 คาดว่ากิจกรรมการตลาดจะกลับมาจัดมากขึ้น รวมถึงลูกค้าเริ่มกลับมาใช้งบโฆษณา บริษัทเริ่มเดินหน้าโครงการใหญ่ ๆ ต่อ ได้แก่การบริหารสื่อโฆษณาใน 7-Eleven โดยทยอยติดตั้งจำนวน 1,000-1,200 สาขาในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่

ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้รับงานใหม่โครงการ "Smart Bus Shelter" ของ กทม.ในการสร้างและใช้ป้ายรถโดยสารประจำทางอัจฉริยะและบริหารจัดการพื้นที่สื่อป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ 1,170 ป้าย ปรับปรุงดูแลและรักษาศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำจำนวน 691 หลัง โดยมีระยะเวลาของสัญญา 10 ปี ช่วยเพิ่ม Media capacity ราว 300 ล้านบาท โดยประมาณการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวในครึ่งปีหลัง และปี 64 ที่ 90 ล้านบาท และ 150 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนในปี 63 คงประมาณการกำไรที่ 512 ล้านบาท ลดลง 31%YoY


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ