นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับรายได้ในปีนี้จะทรงตัว หรือแย่ที่สุดคาดว่าจะลดลงไม่เกิน 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.9 พันล้านบาท ขณะที่เดิมบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 11% เนื่องจากในปีนี้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค.และมีการประกาศปิดเมือง (Lockdown) ส่งผลให้ผู้ป่วยที่ไม่เร่งด่วนชะลอการเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะในเดือน เม.ย.ที่จำนวนผู้ใช้บริการลดลงมากถึง 40-50%
แต่หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ส่งผลให้ผู้ใช้บริการฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับระดับปกติแล้ว แต่ในส่วนผู้ป่วยต่างชาติที่ก่อนหน้านี้มีสัดส่วนรายได้อยู่ราว 10-15% ยังหายไปเกือบทั้งหมด โดยได้รับผลกระทบมาตรการการปิดประเทศ
ขณะที่ทิศทางกำไรสุทธิปีนี้ จะได้รับผลกระทบจากการตัดค่าเสื่อมของอาคารใหม่ มูลค่าราว 48 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม อาคารใหม่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ค.นี้ เน้นบริการศูนย์รักษาอาการปวดและเวชศาสตร์ฟื้นฟู (Pain& Wellness Treatment )ทั้งการดูแลตัวเองในเรื่องของวิตามินต่างๆ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากคนไข้กลุ่มออฟฟิศซินโดรม แม้ระยะแรกอาจจะยังไม่สูงมากนัก และยังมีบริการอื่นอย่างไอซ์แลปที่จะช่วยการดูแลฟื้นฟูอาการเจ็บปวดให้หายได้เร็วขึ้น โดยโรงพยาบาลพระราม 9 เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่นำการรักษาไอซ์แลปเข้ามา
นอกจากนั้น ปัจจุบันทางโรงพยาบาลหันมาเน้นให้การรักษาผู้ป่วยในกลุ่มผู้ป่วยหนัก อาทิ โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้มากถึง 35% ของรายได้รวม โดยเฉพาะในสัดส่วนของผู้ป่วยโรคไต ซึ่งปัจจุบันมีผู้รอเข้ารับการรักษามากกว่า 100 ราย
ขณะเดียวกันยังเน้นการขยายช่องทางในการรักษา ด้วย PR9 Telemedicine อยู่ที่ไหนก็ปรึกษาหมอได้ เป็นOfficial Line Account เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ผู้ป่วยลดการเดินทางมาโรงพยาบาล พร้อมทั้งมีบริการส่งยาให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน และบริการ Drive In Service ซึ่งปัจจุบันก็มีบริษัทประกันภัยเข้ามาเป็นพันธมิตรเครือข่ายในส่วนนี้ด้วย