NER-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 1.24 บาท มูลค่าซื้อขาย 523.12 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.39 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.45 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.10 บาท
ขณะที่หุ้น NER ปิดที่ 2.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท (+1.46%) มูลค่าซื้อขาย 168.27 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.78 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 2.78 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.70 บาท
พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น NER-W1 3 รายการ จำนวน 60 ล้านหน่วย มูลค่าซื้อขาย 60 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ย 1.00 บาท/หน่วย
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ใช้ชื่อย่อว่า NER-W1 ที่ 1.10 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 2.74 บาท โดยมีความผันผวนของหุ้นแม่ที่ 58% และคิดเป็น All-in Premium ที่ 5.75% แต่ในด้านของต้นทุนผู้ได้รับ NER-W1 อยู่ที่ 0.40 บาท (ราคาหุ้นลดลง 0.22 บาท จากวันทำการก่อนหน้า และขึ้นเครื่องหมายแบบ 5:1 และมีผลของเงินปันผล 0.14 บาท) ด้วยสถานะของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ In The Money (52%) และมี Effective Gearing ที่ 2.03 เท่า ประกอบกับสภาพคล่องของหุ้นที่เพียงพอต่อการซื้อขาย ทำให้มองว่า NER-W1 มีความน่าสนใจในการใช้เก็งกำไรแทนหุ้นแม่ หากมีราคาที่ย่อตัวลง โดย Consensus ให้มูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นแม่เฉลี่ยที่ 2.78 บาท ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจที่เร็วกว่าคาด และการเข้ามาของลูกค้ารายใหม่ที่จะหนุนกำลังการผลิตในอนาคต
พร้อมให้กรอบมูลค่าของ NER-W1 ไว้ที่ 1.03-1.17 บาท เมื่อราคาหุ้น NER เคลื่อนไหวในกรอบ 2.64-2.84 บาท โดยมี Volatility 58% per year
NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควันยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง
NER-W1 จำนวนที่ออก 308 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 1.80 บาท อายุ 2 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันที่ 15 ของเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. (ใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 15 ธ.ค. 2563 และหมดอายุในวันที่ 26 พ.ค. 2565