นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยง้วนเมทัล(TYM)หวังว่า หุ้น TYM เข้าเทรด 9 ส.ค.นี้จะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 3 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากบริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายกำลังการผลิต และเชื่อว่าจะรักษาอัตราการเติบโตของกำไรและรายได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลในปีนี้จากกำไรสะสมที่มีอยู่ 160 ล้านบาท
"เชื่อว่าหุ้นเข้าเทรดวันแรกจะเหนือจองได้และหวังว่าจะสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้จากนโยบายที่จ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% เนื่องจากเรามีกำไรสะสม 160 ล้านบาท ณ ไตรมาส 1/50" นายบุญชัย กล่าว
การกำหนดราคาขายหุ้น IPO เบื้องต้นที่ 3 บาท จากช่วงราคา 2.80-3.20 บาท อยู่ภายใต้ PE ที่ 9.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่า PE กลุ่มวัสดุก่อสร้างอยู่ในระดับ 12.37 เท่า โดยจะกระจายหุ้น 100 ล้านหุ้นให้กับรายย่อยถึง 70-80% ส่วนนักลงทุนสถาบัน 20-30% เพื่อให้หุ้นมีสภาพคล่อง
หลังจากระดมทุนด้วยการขายหุ้นแล้ว จะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (DE) ของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 2 เท่าจากปัจจุบันที่กว่า 3 เท่า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะรักษา DE ไม่ให้เกิน 2.5 เท่า โดย ณ ไตรมาส 1/50 บริษัทมีภาระหนี้ประมาณ 1.7 พันล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ระยะสั้น
บริษัทคาดว่าจะได้เม็ดเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 160-170 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้สร้างโรงงานในพื้นที่เดิม คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท เพิ่มเครื่องจักรจำนวน 3-4 เครื่อง รวม 120 ล้านบาท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นอีก 1 หมื่นตัน/ปี จากปัจจุบันที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 1.13 แสนตัน/ปี
นายบุญชัย กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเชื่อว่าจะมีการเติบโตทั้งในส่วนของรายได้และกำไร ซึ่งพิจารณาจากรายได้ในไตรมาส 1 ปีนี้ที่ทำได้กว่า 1.6 พันล้านบาท เติบโตเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/49 ที่มีรายได้ 700 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปี 49 มีรายได้รวม 4.3 พันล้านบาท และการที่ธุรกิจยังสามารถเติบโตและมีพื้นฐานที่ดี จึงทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตได้
ทั้งนี้ มองว่าราคาเหล็กในปีนี้จะทรงตัวโดยปัจจุบันราคาขายเหล็กปรับขึ้นมาอยู่ที่ 20 บาท/ก.ก.จากต้นปีราคาอยู่ที่ 15 บาท/ก.ก. ซึ่งความต้องการใช้เหล็กยังมีต่อเนื่องและมองว่าระดับราคาเหล็กจะทรงตัวที่ 20 บาท/ก.ก.ไปถึงสิ้นปี
ปัจจุบัน สินค้าส่วนใหญ่จำหน่ายในประเทศ กลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นผู้ค้าส่ง 55% ผู้ใช้เหล็ก 30% และผู้รับเหมาฯ 10% โดยในส่วนของผู้รับเหมาฯมีแผนที่จะขยายเป็น 25% ในปีหน้า สำหรับ gross margin ปี 49 อยู่ที่ 5.5% ซึ่งใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมที่เฉลี่ยอยู่ที่ 5.5-6% แต่ไตรมาส 1/50 อัตราชะลอลงเล็กน้อยเหลือ 4% เนื่องจากเทรดดิ้งที่มากขึ้นและราคาเหล็กไม่ได้ปรับสูง
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/จำเนียร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--