นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้และกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ของ SSP จะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามแผน จากการรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม และมองโกเลียเต็มปี และล่าสุดโรงไฟฟ้ายามากะในประเทศญี่ปุ่นขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์ ได้มีการขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากำหนด
นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และกำหนดขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงกลางปี 64 อีกทั้งยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนอื่นๆ
"เรายังคงมองหาลู่ทางการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เข้ามาเติมพอร์ตต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายได้และกำไรที่เติบโตสูงมาตลอด โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 63 เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า"นายวรุตม์ กล่าว
นายวรุตม์ ยังเปิดเผยถึงกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คัดเลือกให้ SSP เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SETCLMV ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 63 ว่า ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือจำนวน 135 เมกะวัตต์ ส่วนหนึ่งเป็นการลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มเวียดนามขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 49.61 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งมีการจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ SETCLMV เป็นดัชนีที่รวบรวมบริษัทจดทะเบียนของไทยที่มีการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งมีแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดดเด่น โดยหลักเกณฑ์การเลือกหุ้นมาจากมีสัดส่วนรายได้จาก CLMV ต่อรายได้รวมของบริษัทอย่างน้อย 10% มูลค่ารายได้จาก CLMV อย่างน้อย 100 ล้านบาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอย่างน้อย 5,000 ล้านบาท มีสัดส่วนการกระจายหุ้นอย่างน้อย 20%