หุ้น INSET ราคาพุ่งขึ้น 5.30% มาอยู่ที่ 2.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 30.18 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.22 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.72 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.78 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.72 บาท
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อินฟราเซท (INSET) ปัจจุบันพบว่าเริ่มกลับมาสะสม Backlog เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดเซ็นสัญญารับงานใหม่ จากกลุ่มงานสร้าง Data Center ที่เชี่ยวชาญอีก 350 ล้านบาท เพิ่ม Backlog (ก่อนรับรู้รายได้ 9M63) เป็น 2.3-2.4 พันล้านบาท และคาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากพันธมิตรบริษัท ทั้งคู่ค้ารัฐฯ อาทิ บมจ.ทีโอที ,บมจ.กสท โทรคมนาคม และเอกชนกลุ่มบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และกลุ่มที่บริษัทรับงานต่อในส่วนงานโครงสร้างพื้นฐาน (Subcontract) ที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในกลุ่มทั้งสิ้น อาทิ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH),บมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส (ICN), บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT)
ภาพรวมดังกล่าวหนุนปัจจุบัน INSET มี Backlog ปัจจุบันสามารถรองรับการรับรู้รายได้ช่วงที่เหลือของปีที่ 1.2 พันล้านบาทไปแล้วเกือบ 70% ที่เหลือ 30% เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากที่บริษัทจะรับงานใหม่เพิ่มพิจารณาจากพันธมิตรหลากหลายดังกล่าว ซึ่งไม่น่าจะมองข้าม INSET ที่มีความสามารถรับงานโครงสร้างพื้นฐานที่ครบเหนือรายอื่น
โดยรวมจึงเชื่อมั่นว่ากำไรปีนี้จะเติบโต 22% ตามคาด ถือว่าสูงกว่าผู้ประกอบธุรกิจรับงานโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเป็นหลัก คือ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) ที่ Consensus คาดกำไรปี 2563 ลดลง 6.9% แต่อาจจะด้อยกว่า บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) ที่พลิกขาดทุนเป็นกำไร อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยชอบ INSET(ราคาเป้าหมาย 4.18 บาท) จากจุดเด่นที่หุ้นแทบไม่ตอบรับข่าวบวกเลย (YTD ปรับตัวขึ้น 1.5% vs ALT +114%, ICN +15.7% , ITEL +8.9%)
ขณะที่ Valuation ปัจจุบันยังถูกกว่ากลุ่มมาก มี PER ปี 63 เพียง 9.8 เท่า ขณะที่ ALT และ ITEL ซื้อขายเฉลี่ย 21.7 เท่า มูลค่าพื้นฐานอิง PER 16 เท่า ที่ 4.18 บาท ยังมี Upside สูงถึง 58.3%