นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 ปรับตัวลดลง จากไตรมาส 1/63 หลังเดือน เม.ย. 63 รายได้ลดลงมากกว่า 30-40% โดยปัจจัยหลักมาจากผู้ป่วยนอก(OPD) และ ผู้ป่วยใน (IPD) ที่ปรับตัวลดลง ซึ่งคงเหลือเพียงผู้ป่วยหนักบางส่วนที่ยังคงที่ต้องการรักษาต่อเนื่อง แต่ผู้ป่วยโรคทั่วไปที่ไม่รุนแรงปรับตัวลดลง ประกอบกับ ในเดือน มิ.ย. ของทุกปีเป็นช่วงฤดูฝนทางโรงพยาบาลจะมีผู้ป่วยโรคหวัดทั้ง OPD และ IPD มากกว่า 30-40 เตียง ซึ่งในส่วนดังกล่าวหายไปด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ในเดือน มิ.ย.63 ผู้ป่วยโรคซับซ้อนกลับมาเป็นปกติ 100% และผู้ป่วยโรคทั่วไปที่ไม่ร้ายแรงเริ่มกลับมา ส่งผลให้ติดลบน้อยลงเหลือ 10% ซึ่งถือว่าไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่ประเมินไว้เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ก็ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ที่คาดว่าจะติดลบในปีนี้ และโอกาสของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 2 หลังจากต่างประเทศพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอีกระลอก
นายแพทย์ธนาธิป คาดว่า การที่ผู้ป่วยโรคซับซ้อนกลับมาเป็นปกติจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/63 กลับมาฟื้นตัวดี ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจด้วย เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝนและเริ่มเต้นฤดูหนาว ซึ่งจะมีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นปกติ
ขณะที่โรงพยาบาลยังคงงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 1,410 ล้านบาท แบ่งเป็น ใช้สร้างตึกผู้ป่วยใน-ผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลธนบุรี 2 จำนวน 110 ล้านบาท, โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำนวน 490 ล้านบาท , โรงพยาบาล Thonburi Health Village จำนวน 240 ล้านบาท , โรงพยาบาล ธนบุรี จำนวน 400 ล้านบาท และ Jin Wellbeing County จำนวน 170 ล้านบาท
สำหรับโครงการ Jin Wellbeing County ได้รับผลกระทบโควิด-19 โดยตรง เพราะเศรษฐกิจชะลอตัวและกำลังซื้อถดถอย ซึ่งในปีนี้วางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ไม่น้อยกว่า 45-50 ยูนิต จากปัจจุบันที่มีสัญญาขายไปมากกว่า 150 ยูนิต และทยอยโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้ว 120 ยูนิต ขณะที่มียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์(Backlog) อีก 30 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 4-6 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120-150 ล้านบาท