นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้า เล็งเผชิญแรงขายออกมาจากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ และยุโรป มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้บางรัฐใช้ State Quarantine 14 วัน และยังกังวลภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก หลังหลายสำนักต่างปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ และล่าสุดกองทุนการเงินระเหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดเศรษฐกิจโลกลงเหลือ -4.9% ในปีนี้ ส่วนในไทยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจลงด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็มองกันว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบ 7-8%
ทั้งนี้ นักลงทุนซื้อหุ้นบนความคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากที่มีการปลดล็อกดาวน์ แต่เมื่อปลดล็อกดาวน์เร็วแล้วก็ต้องมาดูว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดจะเป็นอย่างไร และทิศทางเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ดีขึ้นนักลงทุนก็พร้อมที่จะขาย เพราะราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมารอแล้ว พร้อมให้จับตาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ยุโรป, สหรัฐ-จีนด้วย และให้รอดูมาตรการภาครัฐฯจะมีออกมาอีกหรือไม่
พร้อมให้แนวรับ 1,323-1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,340 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 มิ.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,445.94 จุด ร่วงลง 710.16 จุด (-2.72%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,050.33 จุด ลดลง 80.96 จุด (-2.59%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,909.17 จุด ลดลง 222.20 จุด (-2.19%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 246.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 31.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 24.59 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 8.19 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลขนมจ้าง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 มิ.ย.63) 1,333.43 จุด ลดลง 23.00 จุด (-1.70%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,592.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 มิ.ย.63) ปิดที่ 38.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.36 ดอลลาร์ หรือ 5.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 มิ.ย.) อยู่ที่ 0.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.84/89 แนวโน้มอ่อนค่าเล็กน้อยจากดอลล์แข็ง วิตกโควิดระบาดรอบสอง
- กนง.มติเอกฉันท์ คงดอกเบี้ย 0.5% หั่น "จีดีพี" ปีนี้หดตัวเพิ่มเป็น 8.1% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง เชื่อปีหน้าพลิกบวก 5% ประเมินเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดแต่ใช้เวลาฟื้นตัวนาน "พาณิชย์" เผยส่งออก พ.ค.ติดลบหนัก 22% สรท.ห่วงทั้งปีติดลบ 2 หลัก
- "สมคิด" ร่วม "สนธิรัตน์" ประชุมพลังงานสร้างชาติวันนี้ (25 มิ.ย.) จ่อคลอดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเม็ดเงินรวมแสนล้านบาท แย้มทั้งโรงไฟฟ้าชุมชน มาตรการลดค่าครองชีพเพิ่มเติมหลังถก "กฟผ." ดึงไฟสำรองมาช่วยเหลือ ส่งสัญญาณราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้น
- ตลท.มองภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ยังผันผวน เตรียมประกาศขยายอายุชอร์ตเซล ขีดเส้นสมาชิกเสนอขายได้เฉพาะราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย พร้อมคงหลักเกณฑ์ซีลลิ่ง-ฟลอร์ ลดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด และเกณฑ์เซอร์กิต เบรกเกอร์ คาดประกาศสัปดาห์หน้า
- "สมคิด" รับเดือน ก.ค.63 มีแววธุรกิจทยอยปิดตัวมากขึ้น จี้ฟื้นฟูภาคเกษตรระดับชุมชน ปั้นคนรุ่นใหม่ยกเครื่องเกษตรกรรม ธ.ก.ส.พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 3 แสนล้านบาท ฟื้นฟู-สร้างอาชีพ-เพิ่มรายได้ภาคชนบท
- ตลาดรับสร้างบ้านอาการหนัก คาดภาพรวมปี 2563 ติดลบหนักสุด 10-15% สมาคมฯ แนะผู้ประกอบการบริหารสภาพคล่อง ลุ้นมาตรการรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้น
- นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2563 ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยกดดันต่อการส่งออกไทย เช่นเดียวกับหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้อุปสรรคด้านการขนส่งที่ยังไม่เพียงพอและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทำให้ผู้นำเข้าชะลอการสั่งซื้อแม้ยังมีความต้องการสูง
*หุ้นเด่นวันนี้
- INTUCH (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 74 บาท เป็นหุ้น Defensive เหมาะสำหรับพักเงินในยามตลาดผันผวน ด้านผลประกอบการได้รับผลกระทบจาก Trade war และโควิด-19 จำกัด ทำให้ INTUCH ยังสามารถจ่ายปันผลได้เต็มที่ โดยปีนี้คาด INTUCH จะจ่ายปันผลประมาณ 2.48 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield ประมาณ 4.4%
- STEC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23 บาท อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นขาขึ้น เพราะเศรษฐกิจปีนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยการลงทุนจากภาครัฐ นอกจากงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินอู่ตะเภา ยังมีงานรอเซ็นสัญญาเช่น งาน O&M มอเตอร์เวย์บางปะอิน รถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยาย ดัน Backlog แตะแสนล้านบาท รองรับรายได้อีก 2 ปีข้างหน้า ด้านฐานะการเงินแข็งแกร่ง ปลอดหนี้เงินกู้ แนวโน้มกำไร Q2/63 คาดทรงตัว Q-Q เพราะงานก่อสร้างไม่ถูกกระทบจาก โควิด-19
- CPF (เคทีบี) เป้าเชิงกลยุทธ์ 33 บาท ความต้องการหมูในต่างประเทศยังอยู่ในระดับสูง โดยการที่ประเทศคู่แข่ง มีการติดเชื้อโควิด-19 ยังเป็นข่าวในเชิงบวกของ CPF จากเดิมที่มีเพียงจีนที่นำเข้าเพิ่มขึ้น และ supply ลด บวกต่อราคาหมูที่จะสูงขึ้น นอกจากนี้ ราคาไก่ในประเทศที่สูงขึ้นเป็นบวกต่อ CPF ด้วย พร้อมประมาณการกำไรสุทธิในปี 2563 อยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +7% YoY ช่วง Q2/63 คาดได้รับผลกระทบมากขึ้นการปิดตัวของภาคโรงแรมห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารมากขึ้น แต่จะทยอยดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่า มีผลกระทบของ CPF ในส่วนของการส่งออก