ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์ ลุ้นยืนเหนือ 863 จุด/ต่างชาติซื้อสุทธิหนุนตลาด

          นายณาศิส ประเสริฐสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะสามารถรีบาวน์ขึ้นได้เล็กน้อยทางเทคนิค เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคมีบางส่วนที่เป็น Negative อยู่ ดังนั้น จะต้องคอยจับตาดูว่าดัชนีฯจะสามารถยืนเหนือระดับ 863 ได้หรือไม่ หากยืนไม่ได้มีโอกาสอ่อนตัวลงไปอยู่แถว 853 จุด แต่หากยืนได้ในช่วงบ่ายมีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปแถว 875 จุด
          ทั้งนี้ ปัจจัยในเรื่องค่าเงินบาท ที่ทางแบงก์ชาติได้เริ่มออกมามาตรการมาใช้บางส่วน ในเรื่องของการให้ผู้ส่งออกสามารถฝากเงินดอลลาร์ฯไว้ได้นั้น ก็ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดฯได้ นอกจากนี้ ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิอยู่เมื่อวานนี้(16 ก.ค.)
          อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำให้"อ่อนตัวซื้อ"เนื่องจากตลาดฯยังมีความกังวลเกี่ยวเรื่องดอกเบี้ย ซึ่งทางแบงก์ชาติจะมีการประชุมพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 18 ก.ค.นี้ โดยขณะนี้ตลาดฯคาดการณ์กันไว้ 2 ประเด็นคือ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย กับคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม
          วันนี้หุ้นที่แนะนำยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี เนื่องจากยังรับผลดีจากราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้นอยู่ แต่นักลงทุนควรจะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(16 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,950.98 จุด เพิ่มขึ้น 43.73 จุด(+0.31%)ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,549.52 จุด ลดลง 2.98 จุด(-0.19%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,697.33 จุด ลดลง 9.67 จุด (-0.36%)  
          - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 704.41 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 74.15 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น  0.22 ดอลลาร์ 
          - ธปท.เตรียมเสนอแพ็คเกจดูแลค่าบาทให้รมว.คลัง 1-2 วันนี้อนุญาตให้ฝากเงินต่างประเทศ ตามแผนลงทุนนอก "เกริกไกร" เร่งหาตลาดใหม่รองรับผลกระทบค่าเงินให้ผู้ส่งออก เกาะติดค่าเงินหวั่นกระทบส่งออกเกษตรปลายปี พร้อมหนุนลงทุนต่างประเทศ เสนอตั้งกองทุนให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำลุยต่างประเทศ กกร.ให้ผู้ส่งออกถือครองบัญชีเงินดอลลาร์สหรัฐได้ไม่จำกัดระยะเวลา จากเดิมไม่เกิน 14 วัน
          - อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยรับพิษบาทแข็ง กลุ่มชิ้นส่วนฯ เผยกำไรหดส่งออกได้เงินลดลง แม้วัตถุดิบนำเข้าบางส่วนชดเชยค่าเงิน ด้านยักษ์ใหญ่ "โตโยต้า" เผย 2 ปัจจัยฉุดตลาด ทั้งการเมือง-ค่าบาท ซ้ำเติมผู้ประกอบการ ชี้ปีนี้สาหัสลุ้นรักษายอดรายได้เท่าปีก่อน เผยผู้ส่งออกบางรายเลิกผลิต ไม่มั่นใจสถานการณ์ แต่ยังมั่นใจยอดขายเท่าปีที่แล้ว
          - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ(ต.ค.2549-มิ.ย.2550) รัฐบาลมีรายได้ส่งคลังทั้งสิ้น 1.05 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 5.9% ขณะที่รัฐบาลมีรายจ่ายทั้งสิ้นจำนวน 1.15 ล้านล้านบาท สูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงเดียวกันปีก่อน 12.7% เพราะการเร่งเบิกจ่าย
          - รมว.การคลัง เผยสถานการณ์ด้านฐานะเงินสดของรัฐบาลตอนนี้ค่อนข้างมีปัญหา เพราะเงินคงคลังที่จะนำมาใช้แทบไม่มีแล้ว
          - กบข.ใส่เงินอีก 5.5 พันล้าน ลุยหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุน GPF (Thailand) Investment Fund ดันพอร์ตการลงทุนต่างประเทศขยับขึ้นเป็น 12.8% ใกล้เพดาน15% พร้อมเดินหน้าเจรจาคลังขอเพิ่มวงเงินเป็น 20-25% ช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นเริ่มปรับฐานเป็นไปรตามกลไกตลาด โบรกฯชี้นักลงทุนชะลอเทรดหุ้น รอดูความชัดเจนตัวเลขศก.ทั้ง "อเมริกา-ยุโรป" ขณะที่ค่าเงินบาทไม่กระทบเป้ากำไรบจ.เหตุบริษัทขนาดใหญ่ไม่กระทบมาก