ADVANC ปูพรมนำ 5G รุกทุกธุรกิจจับมือพันธมิตรรับยุคดิจิทัล พร้อมฟื้นฟูประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 25, 2020 13:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา วิกฤติโควิด-19 นำมาซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วโลกยิ่งกว่าวิกฤติอื่น ๆ ที่เคยมีมา และก่อให้เกิด "ชีวิตวิถีใหม่" ที่ไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมแบบทันทีทันใดในทุกระดับ โดยจะเห็นปรากฏการณ์เป็น 3 ช่วง คือ ช่วงตกต่ำจากวิกฤติ หรือ FALL ต่อมาคือ ช่วงแห่งการต่อสู้เพื่อให้ก้าวผ่านวิกฤติไปให้ได้ หรือ FIGHT และช่วงสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน หรือ FUTURE

ทั้งนี้ ในทุกช่วงเวลาล้วนแล้วแต่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเข้ามาเป็นฐานรากที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยประคับประคองและเสริมขีดความสามารถทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อย่าง AIS 5G ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ดิจิทัลเส้นใหม่ ที่ได้เริ่มนำมาใช้ช่วยเหลือ เพื่อหล่อเลี้ยงประเทศจากวันนี้เป็นต้นไป

สถานการณ์โควิดก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทเช่นกันที่ทำให้รายได้ในปีนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหมาย แต่อุตสาหกรรมโทรคมนาคม โชคดีกว่าอุตสาหกรรมอื่นที่ลดลงไม่มาก แม้รายได้จะไม่เหมือนเดิมในรอบ 10 ปี แต่ในปีนี้คาดว่ารายได้ของบริษัทจะลดลงน้อยกว่าจีดีพี ที่คาดติดลบ 6-7% ของเอไอเอสติดลบอย่างน้อย 2-3% ซึ่งล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)ปรับลดคาดการณ์ประเทศไทยติดลบ 7.7%

แม้ว่าสถานการณ์ในปีนี้จะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท แต่เอไอเอสก็ยังเดินหน้าลงทุน 5G ต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุน 35,000 -40,000 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศ โดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เอไอเอสได้ลงทุนมากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท รวมถึงเงินที่เข้าประมูลคลื่นความถี่รวมแล้วกว่า 2 แสนล้านบาท

ล่าสุดเอไอเอสเป็นผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider ที่ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด คือ LOW BAND (700-900 MHz) 50 MHz, MID BAND (1800-2600 MHz) 170 MHz และ HIGH BAND (26 GHz) 1200 MHz และเปิดให้บริการ AIS 5G เป็นรายแรกของประเทศตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 พร้อมขยายเครือข่ายไปครบทั้ง 77 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และในเดือนก.ค.จะทดลองบริการ 5G ในพื้นที่กรุงเทพฯและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และที่เหลือทั่วประเทศจะเริ่มทยอยในเดือนส.ค.นี้

"เพราะ Digital Infrastructure เป็นสิ่งสำคัญในการ เราจำเป็นต้องลงทุนเพื่อรักษา Digital Infrastructure มาใช้ได้ และเรามี 5G เราก็ลงทุนเพิ่มเติม การลงทุนวันนี้หลายคนบอกเร็วไปหรือไม่ แต่เอไอเอสคิดว่าไม่เร็ว และเป็นโอกาสประเทศไทย เราได้ชิงพื้นที่นี้ก่อน เรามี ECC ที่ต้องมีเทคโนโลยี ดึงดูดเข้ามานอกเหนือจากบีโอไอ เราลงทุนเพื่ออนาคตประเทศ จะเป็นประโยชน์ทั้งบริษัท และประเทศ "นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจมีเครื่องยนต์สำคัญที่ขับเคลื่อนประเทศ 3 สิ่งคือเรื่องของการท่องเที่ยว, ส่งออก และการลงทุน แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิดขึ้น เครื่องยนต์เหล่านี้ล้วนหยุดชะงัก ดังนั้น สิ่งที่ไทยควรทำคือ พัฒนาระบบสาธารณสุขเป็นแหล่งรายได้ใหม่, เพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยนำเสนอความแข็งแกร่งทางด้านศิลปวัฒนธรรม อาหาร, รวมไปถึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจแบบรุนแรง และบริษัทเอกชนและประชาชน จะต้องร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย และสิ่งที่จะผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วก็คือ Digital infrastructure

ฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี Infrastructure ที่เป็นดิจิทัล เพราะดิจิทัลเป็นอย่างเดียวที่ทำให้รายเล็กชนะรายใหญ่ได้ เราไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่ 5G เป็นโอกาสมหาศาลของประเทศเล็ก ๆ อย่างไทย ถ้าหากรู้จักใช้ดิจิทัล

นายสมชัย คาดว่าไทยจะเริ่มฟื้นฟูในช่วงไตรมาส 3 ถ้าทำไม่สำเร็จก็ไตรมาส 4 น่าจะทำได้ เพื่อปีหน้าจะลุกขึ้นมาเติบโต การที่มี 5G ก็ต้องขยาย 5G ในไปยัง Mass Consumer ซึ่งมีโอกาสทางธุรกิจมากมาย โดย 5G เกิดการใช้ในระดับ Mass แต่ด้วยวิกฤติโควิด เร่งให้มีการใช้ 5G ในเชิง MASS เร็วขึ้น

ทั้งนี้ นวัฒกรรม AIS 5G ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกของโลกที่นำมาใช้งานจริงประกอบไปด้วย

  • 5G Dual Mode SA/NSA โดยประเทศไทย เป็นกลุ่มแรกของโลกที่ใช้ เทคโนโลยี SA - Stand Alone และ NSA – None Stand Alone Dual Mode ที่สามารถผสมผสานระหว่าง เครือข่าย 5G โดยเฉพาะ และเครือข่าย 5G ที่ทำงานร่วมกับ 4G พร้อมรับอนาคตในการใช้งาน 5G ในหลากหลายประโยชน์ในรูปแบบ Massive IoT และ Mission Critical
  • 5G Network Slicing เป็นครั้งแรกของเมืองไทย กับเทคโนโลยี 5G Network Slicing ที่เสมือนมีหลากหลายเครือข่ายอยู่ในเครือข่ายเดียว (Multi Network In One Network) ทำให้เราสามารถออกแบบเครือข่ายแต่ละชั้นได้อย่างสอดคล้องและยืดหยุ่นกับลักษณะของอุตสาหกรรมแต่ละรูปแบบ แต่ละพื้นที่ ได้อย่างคล่องตัว เต็มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การทำธุรกิจของแต่ละองค์กรได้อย่างเต็มที่

จากขีดความสามารถของเครือข่าย AIS 5G เมื่อผสมผสานเข้ากับคุณสมบัติของ 5G คือ ความเร็ว แรง เสถียร, สนับสนุนและยกระดับการใช้งาน Multi Media Content สู่ VR หรือ AR, รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoTได้ในจำนวนมหาศาล และมีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วจากความหน่วงต่ำ จึงยิ่งทำให้ 5G เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเสริมขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมหลักทั้งหมด ที่จะเป็นกลไกในการฟื้นฟูประเทศนั่นเอง ในแต่และภาคส่วนดังต่อไปนี้

ภาคสาธารณสุข AIS 5G ทำงานร่วมกับ Robot และ AI เข้าไปสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการ คัดกรองคนไข้ (Robot for Care), Telemedicine, AI Assisted CT SCAN และ Mobile Stroke Unit ตลอดช่วงระยะของการแพร่ระบาดรุนแรง จนถึงการผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตร (Strategic Partner) เพื่อพัฒนา Telemedicine อย่างต่อเนื่อง

ภาคอุตสาหกรรมในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โดย 5G ในฐานะ ICT Infrastructure เพื่อเสริมขีดความสามารถในการบริหารจัดการในทุกๆส่วนงาน ประกอบด้วย

  • ภาคพื้นดิน : กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA), บมจ.สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง (SPI), กลุ่มบมจ.ดับบลิวเอชเอคอร์ปอเรชั่น (WHA )ที่เริ่มทดลองสอบ 5G Smart City แล้ว
  • ภาคทางอากาศ : บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น ในนาม กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ผู้ชนะการประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่เริ่มทดลองทดสอบ 5G Smart Airport แล้ว
  • ภาคทางทะเล : การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่เริ่มทดลองทดสอบ 5G แล้ว ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง

ภาคการค้าปลีก โดย AIS 5G อยู่ระหว่างการพัฒนา 5G Smart Retail ร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล (CRC) ในฐานะหัวหอกสำคัญของภาคอุตสาหกรรมค้าปลีก ที่ครอบคลุมตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ของการใช้ชีวิตของคน ในฐานะการกระจายรายได้ระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อ รวมถึงมีอัตราการจ้างงานถึง 2 ใน 3 ของประเทศ

Multimedia ใหม่สร้าง Immersive Experience โดย 5G Immersive Experience กับเทคโนโลยี AR/VR พร้อมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างประสบการณ์ใหม่ของ Unseen Thailand ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึง คอนเทนท์ด้านการศึกษา และความบันเทิง พลิกโฉมการสร้างสรรค์คอนเทนท์ของ Creator สัญชาติไทย ด้วย Next Reality Studio - AR/VR Studio แห่งแรกของเมืองไทย

Sustainability Development โดย 5G กับการพัฒนา สิ่งแวดล้อม การเกษตร และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยผนึกพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้าง SDG Lab ในพื้นที่ 100 ไร่ ใน อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี หรือสวนป๋วย ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต้นแบบการรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรมที่สุดแห่งหนึ่ง

รวมทั้งประกาศแพลตฟอร์มการเรียนรู้ LearnDi จาก AIS Academy for Thais ขยายการสร้างความเข้มแข็งการพัฒนาบุคลากรสู่แต่ละองค์กรทั่วประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ