สำนักงานประกันสังคม (สปส.) คาคปี 50 จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน 5.0-5.25% สูงกว่าที่ประมาณการไว้เดิมที่ 4.50 — 5.00% เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลายจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดพันธบัตรและตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปี พร้อมกระจายการลงทุนไปหุ้นกู้เอกชน,กองทุนอสังหาริมทรัพย์และ ลงทุนหุ้นในต่างประเทศ
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนประกันสังคมนั้น วัดตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 40 คือ พันธบัตรและหุ้นกู้ที่ถือลงทุนจนครบกำหนด (Hold to maturity) ไม่ต้องนำมาคิดราคาตลาด ในภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงเช่นนี้ กองทุนมีกำไรทางบัญชีจากราคาพันธบัตรที่ปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้น ตัวเลขผลการดำเนินงานของกองทุนในระดับ 5% ข้างต้นจึงเป็นเม็ดเงินที่ได้รับจริง
ส่วนการลงทุนในหุ้นทั้งหมดคิดราคาตลาด ซึ่งหากดัชนีตลาดหลักทรัพย์สิ้นปีนี้ปิดที่ 780 จุด กองทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นประมาณ 18%
อย่างไรก็ดี จากการที่กระทรวงการคลังประกาศยกเลิกการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 17 ปี จำนวน 4 ครั้ง วงเงินรวม 17,000 ล้านบาท ทำให้สปส.ประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งลงทุน
ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแหล่งลงทุน คณะกรรมการประกันสังคมได้กำหนดแผนการลงทุนประจำปี 2550 ให้สปส.กระจายการลงทุนมากขึ้นในหลักทรัพย์อื่นๆ ได้แก่ หุ้นกู้เอกชน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
หุ้นกู้เอกชน สปส.เน้นลงทุนในหุ้นกู้ที่มีความมั่นคงสูง ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับ A ขึ้นไป โดยในช่วงครึ่งปีแรก ได้ลงทุนไปแล้วหลายรายการ เช่น หุ้นกู้ของบมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) โดยการลงทุนในหุ้นกู้ที่ผ่านมาได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยประมาณ 4.50%
ขณะที่แผนการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในปี 50 อนุญาตให้ลงทุนได้ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท โดยให้ลงทุนเฉพาะกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เสนอขายประชาชนและเป็นโครงการที่มีผู้เช่าอยู่แล้ว โดยครึ่งปีแรกลงทุนไป 2 กองทุน คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ และ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ไลฟ์สไตล์ คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากทั้ง 2 กองทุนเป็นเงินปันผลประมาณ 7.50 — 8.25% ต่อปี
ส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศสปส.ได้รับอนุมัติวงเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ลงทุนได้จำนวน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างนำเสนอแผนการลงทุนเพื่อขออนุมัติจากคณะกรรมการประกันสังคม คาดว่าจะเน้นการลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีเครดิตระดับ A ขึ้นไป และจะทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 90% ซึ่งจะทำให้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 4.00 — 5.00% ต่อปี
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--