นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอพิจารณาให้ปลดล็อกเกณฑ์การลงทุนของกลุ่มบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท.สามารถลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารที่ต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (High Yield Bond) จากเดิมที่มีข้อจำกัดให้ลงทุนซื้อสินทรัพย์กับสถาบันทางการเงินเท่านั้น
เนื่องจากกลุ่ม AMC นับว่ามีศักยภาพในการลงทุน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มผู้ลงทุนในกองทุนดังกล่าว นอกจากนี้ ก.ล.ต.ก็พยายามที่จะผ่อนคลายเกณฑ์การลงทุนในกลุ่ม High Yield Bond โดยเฉพาะในกลุ่มกองทุนรวมให้มีความสะดวกมากขึ้นด้วย รวมถึงยังได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอให้ทบทวนการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกองทุน High Yield Bond เหมือนที่เคยให้กับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองลงเหลือ 0.001%
การจัดตั้งกองทุน High Yield Bond เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ออกตราสารหนี้บางรายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 (โควิด-19) ที่ได้มีการระดมทุนผ่าน High Yield Bond ให้มีสภาพคล่องและสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ (bridge financing) และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนผ่านมืออาชีพทดแทนการลงทุนโดยตรงในตราสารดังกล่าว โดยมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสมกับฐานะการเงินและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
นางสาวรื่นวดี กล่าวอีกว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ยังได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีของกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) ตามที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอมา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทางกระทรวงการคลังว่าจะพิจารณาต่ออายุต่อหรือไม่ จากเดิมกองทุนรวม SSFX ได้ให้สิทธิลดหย่อนทางภาษีเพิ่มจากกองทุน SSF ปกติอีก 2 แสนบาท ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.นี้