(เพิ่มเติม) "ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง"ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 300 ล้านหุ้น เข้า SET ลงทุน IT-เครื่องจักร-สร้างโรงซ่อมและคลังวัสดุ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 1, 2020 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสืชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์ในช่วงปี 63-65 มูลค่าลงทุนรวม 10 ล้านบาท โดยใช้เงินจาก IPO ทั้งจำนวน , ใช้เป็นเงินทุนในเครื่องจักร ยานพาหนะ เครื่องมืออุปกรณ์ในช่วงปี 63-65 มูลค่าลงทุน 180 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินจาก IPO รวมกับการกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีกบางส่วน, ใช้เป็นเงินทุนในการก่อสร้างโรงซ่อมและอาคารเก็บวัสดุแห่งใหม่บนที่ดินที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในช่วงปี 63-64 งบลงทุนรวม 10 ล้านบาทจากเงิน IPO และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

RT ประกอบธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างด้านงานวิศวกรรมโยธา และธรณีเทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีระดับสูง 5 ประเภท ดังนี้ 1.งานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน 2.งานก่อสร้างเขื่อน 3.งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 4.งานก่อสร้างท่อลอดใต้ดินวิธีดันท่อและวิธีเจาะและดึงท่อ และ 5. งานก่อสร้างด้านอื่นๆ เช่น งานป้องกันและเสริมเสถียรภาพทางลาด งานขุดดินและหิน ทั้งแบบใช้ระเบิดและไม่ใช้ระเบิด งานเจาะสำรวจธรณีวิทยา งานปรับปรุงฐานรากด้วยวิธีอัดฉีดน้ำปูน งานเหมืองแร่ งานถนน งานประตูระบายน้ำ และงานวางรางรถไฟ เป็นต้น

บริษัทได้งานก่อสร้างจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมชลประทาน การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงงานก่อสร้างจากภาคเอกชน ซึ่งเป็นงานก่อสร้างงานอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน งานก่อสร้างเขื่อน งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ งานก่อสร้างท่อลอดใต้ดินวิธีดันท่อและวิธีเจาะและดึงท่อ รวมทั้งงานก่อสร้างด้านอื่นๆ เช่น งานป้องกันและเสริมเสถียรภาพทางลาด งานขุดดินและหิน งานเจาะสำรวจธรณีวิทยา งานปรับปรุงฐานรากด้วยวิธีอัดฉีดน้ำปูน งานเหมืองแร่ งานถนน และงานวางรางรถไฟ เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ให้บริการงานคอนกรีตโครงสร้างงานก่อสร้างอาคารรับน้ำ งานระเบิดเหมืองหินสำหรับถมเขื่อน งานถมบดอัดเขื่อน งานอาคารควบคุมและห้องสำหรับงานบำรุงรักษาและอาคารประกอบอื่นๆ งานเสริมเสถียรภาพทางลาดด้วยวิธีร๊อคโบลท์และช๊อตกรีต งานคอนกรีตพ่นและงานคอนกรีตปิดหน้าเขื่อน งานก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำ อุโมงค์ส่งน้ำ และงานก่อสร้างเขื่อน ในประเทศจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

บริษัทยังขยายตลาดไปสู่ระดับภูมิภาค ได้แก่ สปป.ลาว และเมียนมา ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นหลัก เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ น้ำงึม 2 โครงการโรงไฟฟ้าเทินหินบูนส่วนขยาย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำน้ำงึม 3 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรี โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำน้ำเงี๊ยบ 1 โครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย ฯลฯ ใน สปป.ลาว โครงการโรงไฟฟ้าเทายีกัด 2 โครงการโรงไฟฟ้าบาลูจอง 3 ในเมียนมา และในปลายปี 62 บริษัทได้รับงานโครงการก่อสร้างงานแรกในประเทศกัมพูชาคือโครงการเขื่อนเดือนตรี

บริษัทมีทุนจดทะเบียน 550,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,100,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและชำระแล้ว 400,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 550,000,000 บาท

ณ วันที่ 11 มิ.ย.63 บริษัทมีโครงสร้างผู้ถือหุ้น 5 อันดับแรก ดังนี้ นายชวลิต ถนอมถิ่น ถือหุ้น 177,090,800 หุ้น คิดเป็น 22.14% ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนหุ้นเหลือ 16.10%, นางสาวชนาพร เบรย์ ถือหุ้น 90,500,000 หุ้น คิดเป็น 11.31% จะลดเหลือ 8.23%, นายธนวุฒิ คิรินาวิน ถือหุ้น 62,030,400 หุ้น คิดเป็น 7.75% จะลดเหลือ 5.64%, นายธีรยุทธ ชูศิลป์ ถือหุ้น 46,380,000 หุ้น คิดเป็น 5.80% จะลดเหลือ 4.22%, นายปฤษดาพันธ์ พจนปรีชา ถือหุ้น 25,349,600 หุ้น คิดเป็น 3.17% จะลดเหลือ 2.30%

ผลประกอบการในช่วงปี 60-62 บริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 2,441.92 ล้านบาท, 1,861.11 ล้านบาท และ 2,304.92 ล้านบาท ตามลำดับ อัตรากำไรขั้นต้น 12.47%, 9.29% และ 17.25% ตามลำดับ ทั้งนี้ ในปี 60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 52.70 ล้านบาท จากนั้นขาดทุน 65.21 ล้านบาทในปี 61 และพลิกกลับมามีกำไร 130.66 ล้านบาทในปี 62 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.10%, ขาดทุนสุทธิ 3.45% และกำไรสุทธิ 5.52% ตามลำดับ

งวด 3 เดือนแรกของปี 63 บริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 724.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 62 โดยหลักเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งงานในประเทศและงานในต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้ของโครงการอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา กำไรขั้นต้น 80.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.70% เมื่อเทียบกับงวด 3 เดือนแรกของปี 62 กำไรสุทธิเท่ากับ 56.87 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.66%

ณ วันที่ 31 มี.ค.63 บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์รวมเท่ากับ 3,802.64 ล้านบาท หนี้สินรวม 3,155.64 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 647.00 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากหักเงินสำรองต่างๆทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทและกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ