ต่อจากนี้บริษัทจะประเมินมูลค่าทรัพย์สินและรื้อถอนโรงไฟฟ้า โดยเครื่องจักรและอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าส่วนหนึ่งจะสำรองไว้เป็นอะไหล่ของโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัท ส่วนพื้นที่ของโรงไฟฟ้าขนาด 250 ไร่ ส่วนหนึ่งจะใช้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง กำลังการผลิตตามสัญญารวม 1,400 เมกะวัตต์
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH กล่าวว่า โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้เป็นโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ที่ได้รับการคัดเลือกตามประกาศรับซื้อไฟฟ้าของ กฟผ.รอบปี 37 เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้ กฟผ. ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเมื่อวันที่ 1 ก.ค.43 และบริษัทได้เข้าร่วมลงทุนในโครงการแห่งนี้เมื่อปี 46 และต่อมาในปี 57 ได้เข้าถือหุ้นทั้งหมดในนามบริษัทย่อย คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ได้ยึดถือภารกิจการผลิตไฟฟ้าเพื่อเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยใส่ใจและให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อการจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างดีที่สุด อีกทั้งยังได้เสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ ผ่านการจ้างงานท้องถิ่น การจ่ายภาษีท้องถิ่น เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า และการทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ตอบสนองประเด็นปัญหาของชุมชนอย่างต่อเนื่อง
"โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ ได้รับการยอมรับในระดับเอเชียแปซิฟิกให้เป็นตัวอย่างของการจัดการความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยได้รับรางวัลด้านความปลอดภัยทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจัดการสิ่งแวดล้อมก็เลือกใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงในขณะนั้น นำมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมระดับสากล และระบบการบริหารคุณภาพเพื่อความเป็นเลิศในการทำงานเข้ามาใช้ในการบริหารโรงไฟฟ้า ทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และออกไซด์ของไนโตรเจนสามารถกำจัดและควบคุมได้ในระดับที่ดีกว่ามาตรฐานกฎหมายกำหนดไว้
นอกจากนี้ยังมีการดูแลชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มการพัฒนาโครงการ มุ่งเน้นการจ้างงานท้องถิ่นเป็นลำดับแรกเพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และเมื่อปี 50 มีการจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้นำส่งเงินกองทุนอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 30-40 ล้านบาท ซึ่งได้นำไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า อีกทั้งยังได้นำส่งภาษีท้องถิ่นเฉลี่ยปีละ 1-2 ล้านบาท ด้วย" นายกิจจา กล่าว
โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้กำหนดหยุดการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างถาวรในวันที่ 30 มิ.ย.63 ตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า ขณะนี้บริษัทได้มอบหมายให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อจำหน่ายทรัพย์สินและรื้อถอนโรงไฟฟ้า ซึ่งจะต้องสอดรับกับแผนการใช้พื้นที่ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง ขั้นตอนการรื้อถอนโรงไฟฟ้าคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 64