ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,337.45 จุด ลดลง 1.58 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขายราว 26,622.02ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,350.16 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,331.60 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่เช้านี้ร่วงไปกว่า 100 จุด จากความกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีคาดการณ์ว่าจำนวนจะสูงถึง 1 แสนคนต่อวัน เป็นปัจจัยหลักกดดันตลาด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้าเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯออกมาดี ขณะนี้ตลาดเอเชียก็เริ่มกลับมาอ่อนตัว
ส่วนตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานได้บ้าง จากคาดว่าสต็อกน้ำมันดิบของทางการสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้จะออกมาลดลง อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงจะมี upside จำกัดเนื่องจากอีกไม่นานก็จะมีการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 ของกลุ่มแบงก์ ซึ่งนักลงทุนต่างรอดูงบฯกลุ่มแบงก์ทำให้เห็นวอลุ่มเทรดตลาดโดยรวมบางไป ซึ่งถ้างบฯออกมาดี นักลงทุนก็จะกลับเข้าไปลงทุนใหม่ ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก และหุ้นที่คาดว่าจะมีงบฯออกมาดีก็จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทำให้เด่นขึ้นมาได้บ้าง
พร้อมให้ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฏรวันนี้เริ่มการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 วาระแรก คาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน โดยให้จับตาที่ผลโหวตเพราะจะเป็นการแสดงเสถียรภาพของรัฐบาล
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะทรงตัว โดยมีแนวรับ 1,325-1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
STA มูลค่าการซื้อขาย 1,366.22 ล้านบาท ปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 899.55 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KCE มูลค่าการซื้อขาย 881.02 ล้านบาท ปิดที่ 22.70 บาท ลดลง 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 846.31 ล้านบาท ปิดที่ 93.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 842.29 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท