นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM)เปิดเผยว่า จากที่บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนประเภท Super Savings (ชนิดเพื่อการออมพิเศษ) พร้อมกัน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยแอคทีฟ เพื่อการออม (SCBEQ-SSFX), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนี SET เพื่อการออม (SCBSET-SSFX) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ผสม 70/30 เพื่อการออม (SCB70-SSFX) เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามนโยบายภาครัฐ โดยเสนอขายตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 30 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศด้วยมูลค่า 2,325 ล้านบาท ภายใต้ส่วนแบ่งการตลาดที่ 27.0% (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 30 มิ.ย. 63) ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน และความไว้วางใจในฝีมือการบริหารสินทรัพย์อย่างมืออาชีพของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวกองทุนประเภท Super Savings พร้อมกันอีก 16 กองทุน เพื่อสร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับนักลงทุนที่ต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 63 นี้เป็นต้นไป ซึ่งแบ่งตามประเภทสินทรัพย์ที่ลงทุน ได้แก่ กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมผสม กองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ และกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก ทั้งยังมีโครงการที่จะเปิดตัวกองทุน Super Savings ที่น่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมอีกภายในสิ้นปีนี้
"ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงมีความผันผวนสูงเนื่องจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นักลงทุนก็ยังคงให้การตอบรับกองทุนประเภท Super Savings อย่างคับคั่ง สะท้อนให้เห็นมีจำนวนผู้ให้ความสนใจต่อการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นอยู่มาก และเพื่อเป็นการสนับสนุนการออมซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างฐานะความมั่นคงอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนประเภท Super Savings อย่างต่อเนื่องอีก 16 กองทุนเพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายของนักลงทุน โดยเราเชื่อมั่นว่าในระยะยาวเศรษฐกิจโลกยังคงมีศักยภาพที่จะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 อย่างแน่นอน" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว