บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) คาดว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะผ่านการพิจารณาไฟลิ่งการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิให้กับผู้ถือหุ้นเดิมได้ประมาณปลายไตรมาส 3 นี้
ทั้งนี้ UMS ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิจะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์ โดยไม่คิดราคา และราคาที่ใช้สิทธิเท่ากับ 8.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินทุนทั้งสิ้นประมาณ 595 ล้านบาท เพื่อเตรียมนำไปขยายโครงการในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป โดยแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับผลประกอบการในปี 2550 นั้น บริษัทเชื่อมั่นว่าจะมีรายได้เติบโตมากกว่าร้อยละ 30 หรือ 1,800 ล้านบาท ที่เคยตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปีอย่างแน่นอน เนื่องจากฐานลูกค้าปัจจุบันมีมากกว่า 250 รายแล้ว เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2549 ที่มีจำนวนประมาณ 170 ราย ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย และขณะนี้มีความเป็นไปได้ เมื่อถึงสิ้นปี 2550 บริษัทจะมีจำนวนลูกค้าถึง 300 ราย ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าในครึ่งปีแรกได้
ส่วนกรณีที่ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของบริษัทได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ออกมาอย่างน่าประทับใจ ทั้งๆที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัว ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2550 ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงจากราคา 7.95 บาทต่อหุ้น เพิ่มเป็น 16.40 บาทต่อหุ้น (ราคาพาร์ 0.50 บาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 106.29 ซึ่งหากเปรียบเทียบกับหุ้นใน SET 50 ถือว่าหุ้นของบริษัทฯได้ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด โดยหุ้นใน SET 50 ที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดได้แก่หุ้น ATC ราคาปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 104.65 ส่วนอันดับสองได้แก่ หุ้น CP7-11 ราคาปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 92.0 ในขณะที่อันดับ 3 ได้แก่ หุ้น TTA ราคาปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 74.51
ในด้านปริมาณการซื้อขายหลังจากแตกพาร์แล้ว หุ้นบริษัทฯได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการของบริษัทฯในอนาคต ซึ่งในขณะนี้หุ้นของบริษัทมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยประมาณ 1-3 ล้านบาทต่อวัน ปัจจุบันปริมาณและมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นสูงเป็นประมาณวันละ 10-20 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--